ผมบางในผู้หญิง สาเหตุและวิธีการแก้ไขปัญหา
อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการผมบางผมร่วงในเพศหญิง
ผมร่วง ไม่ว่าจะเป็นในเพศชายหรือหญิงถือว่าเป็นเรื่องที่ปกติธรรมดายิ่ง คำว่าปกติในที่นี้หมายถึงว่าคนเรามีโอกาสที่ผมจะหลุดร่วงได้ 50 ถึง 100 เส้นต่อวัน หากวันไหนเราสระผมก็เป็นไปได้ที่เส้นผมจะหลุดร่วงมากถึง 250 เส้นต่อการสระ 1 ครั้ง แต่ถ้าจำนวนเส้นผมที่ร่วงมีมากกว่านั้นก็อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าเรากำลังมีอาการผมร่วงมากกว่าปกติ เป็นเรื่องที่ยากมากจนถึงขั้นเป็นไปไม่ได้หากเราจะต้องถึงขนาดมานั่งนับจำนวนเส้นผมที่หลุดร่วงต่อวัน แต่ก็มีวิธีสังเกตง่ายๆ โดยเวลาที่เราตื่นนอนให้ลองสังเกตดูว่ามีกลุ่มเส้นผมหลงเหลืออยู่บนหมอนหรือที่นอนมากกว่าที่ผ่านๆ มาจนผิดสังเกตหรือไม่ หรือเวลาที่ทำการหวีผมมีกระจุกผมหลุดออกมาติดตามหวีบ้างหรือไม่อย่างไร หากปริมาณเส้นผมที่หลุดร่วงมีจำนวนมากกว่าปกติให้สันนิษฐานเลยว่าคุณกำลังมีอาการผมร่วงผิดปกติหรือมากกว่าปกติ
เป็นความจริงที่ว่าปัญหา ผมบาง มักจะพบเจอในเพศชายมากกว่าเพศหญิง สาเหตุนั้นเนื่องมาจากอิทธิพลของรูปแบบของผมบางในเพศชายเนื่องจากพันธุกรรม (Male pattern baldness) แต่ปัญหาผมเส้นเล็กและผมบางก็ถือเป็นเรื่องที่พบเห็นได้ทั่วไปในเพศหญิงเช่นเดียวกัน และปัญหาที่ว่าก็ส่งผลให้บุคคลเหล่านั้นสูญเสียความมั่นใจไม่แตกต่างกันแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุก็มีตั้งแต่เรื่องเล็กๆ ธรรมดาๆ ที่ส่งผลทำให้ผมร่วงในระยะสั้นเช่น การขาดวิตามินที่จำเป็นไปจนกระทั่งถึงปัญหาที่มีความซับซ้อนและรุนแรงเช่น ปัญหาจากเรื่องของสุขภาพภายในร่างกายของคนคนนั้นเป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันมีวิธีรักษาอาการผมบางผมร่วงทั้งในเพศชายและหญิงหลายวิธีด้วยกันซึ่งการรักษานั้นขึ้นอยู่กับสาเหตุที่มาที่ไปของปัญหาเป็นสำคัญ ข้อมูลที่เราจะนำเสนอต่อไปนี้คือสาเหตุหลากหลายประการซึ่งเป็นที่มาของปัญหาผมบางผมร่วงในเพศหญิงที่พบเจอได้บ่อยที่สุด รวมถึงวิธีการรักษาและแก้ไขปัญหานั้นๆ อีกด้วย
1. ความเจ็บปวดที่ร่างกายได้รับรูปแบบต่างๆ
บาดแผลหรือความเจ็บป่วย/เจ็บปวดที่เกิดกับร่างกายรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจากการได้รับอุบัติเหตุ การเข้ารับการผ่าตัด หรือความเจ็บป่วยอันเกิดจากโรคภัยไข้เจ็บ โรคที่ร้ายแรงคุกคามถึงชีวิตเช่น มะเร็ง โรคหัวใจ ความดัน เบาหวาน หรือแม้กระทั่งจากโรคเล็กๆ น้อยๆ ที่ดูไม่มีพิษมีภัยเช่น ไข้หวัด ก็อาจก่อให้เกิดอาการผมร่วงระยะสั้นได้ ซึ่งอาการนี้มีศัพท์ทางการแพทย์เรียกว่า Telogen Effluvium
เส้นผมก็มีวงจรชีวิตของมันเริ่มจากระยะเติบโต ระยะฟื้นตัว ระยะหลุดร่วงและขึ้นใหม่ เมื่อคุณอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความเครียดไม่ว่าจะมาจากการทำงาน เรื่องครอบครัวหรือชีวิตส่วนตัวก็อาจส่งผลกระทบต่อวงจรชีวิตของเส้นผม และส่งผลให้เกิดการเร่งเข้าสู่วงจรช่วงเส้นผมหลุดร่วงเร็วยิ่งขึ้นกว่าที่ควรจะเป็น อาการผมร่วงประเภทนี้มักสังเกตเห็นได้ชัดเจนภายหลังจากความเจ็บป่วยทางร่างกายเกิดขึ้นผ่านไปเป็นระยะเวลา 3 ถึง 6 เดือน อย่างไรก็ตามคุณไม่ต้องวิตกกังวลใจมากเกินไป เพราะผมร่วงประเภทนี้จะหายไปและดีขึ้นเมื่อร่างกายของคุณกลับฟื้นคืนสู่สภาพแข็งแรงเต็มที่อีกครั้งหนึ่ง
2. การตั้งครรภ์
การตั้งครรภ์ก็ถือเป็นรูปแบบหนึ่งของอาการเจ็บปวดทางร่างกายซึ่งก่อให้เกิดอาการผมร่วงได้ ผมร่วงระหว่างตั้งครรภ์มักเกิดขึ้นช่วงหลังจากที่คลอดบุตรแล้วมากกว่าช่วงที่ยังตั้งครรภ์อยู่ การให้กำเนิดบุตรโดยเฉพาะในช่วงที่เบ่งท้องคลอดถือเป็นช่วงที่ทรมานและเจ็บปวดที่สุดสำหรับผู้ที่เป็นแม่ทุกคน ถึงอย่างไรก็ตาม ผมร่วงประเภทนี้ถือว่าไม่รุนแรง และสุดท้ายแล้วผมของคุณก็จะกลับขึ้นมางอกใหม่อีกครั้งอย่างแน่นอน
3. การได้รับวิตามินเอมากเกินไป
การรับประทานวิตามินเอไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบของอาหารเสริมหรือยาหากได้รับในปริมาณที่มากเกินกว่าร่างกายต้องการอาจทำให้เกิดอาการผมร่วงได้ ปริมาณวิตามินเอที่คนเราควรได้รับต่อวันอยู่ที่ประมาณ 3,000 IU (International Units) ในเพศชายและ 2,310 IU ในเพศหญิง ในขณะที่อาหารเสริมที่มีจำหน่ายในท้องตลาดอาจมีปริมาณของวิตามินเอสูงถึง 10,000 IU ซึ่งเกินความจำเป็นและอาจส่งผลต่อร่างกายหากรับประทานติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน หากผมร่วงเพราะสาเหตุนี้ก็ควรที่จะหยุดทานโดยทันทีหรือปรับปริมาณลดลงให้เหมาะสม เพียงเท่านี้แล้วผมของคุณก็จะกลับมาอยู่ในสภาพที่ดีอีกครั้ง
4. การขาดโปรตีน
หากว่าคุณทำการลดน้ำหนักโดยการอดอาหาร การที่เลือกรับประทานเนื้อสัตว์น้อยหรือหลีกเลี่ยงไม่ทานเนื้อใดๆ เลยอาจทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารจำพวกโปรตีนที่ไม่เพียงพอ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นร่างกายจะทำการแบ่งปันโปรตีนมาจากอวัยวะส่วนอื่นเช่นหนังศีรษะและเส้นผมซึ่งอาจทำให้เส้นผมหยุดการเจริญเติบโตได้ อาการผมร่วงประเภทนี้จะกินระยะเวลาประมาณ 2 ถึง 3 เดือน นับจากเริ่มลดหรือหยุดการรับประทานอาหารที่มีสารโปรตีน หากคุณเป็นผู้หนึ่งซึ่งต้องการลดน้ำหนักและอยากที่จะหลีกเลี่ยงการรับประทานเสื้อสัตว์ เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดสารโปรตีนซึ่งเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกาย คุณอาจเลือกที่จะรับประทานผักบางชนิดหรือพืชตระกูลถั่วที่มีสารโปรตีนเพียงพอต่อร่างกายเช่น เห็ด ถั่วลิสง ถั่วงอก หรือผลิตภัณฑ์นมที่ทำมาจากถั่วลิสง เป็นต้น
5. โรคผมร่วงในชาย (Male Pattern Baldness)
สองในสามของประชากรผู้ชายจะประสบปัญหาผมร่วงผมบางเมื่อมีอายุถึง 60 ปี และส่วนใหญ่มีสาเหตุจากอิทธิพลของรูปแบบของผมบางในเพศชายเนื่องจากพันธุกรรมหรือโรคผมร่วงในผู้ชาย ผมบางประเภทนี้เกิดจากลักษณะของยีนและการทำงานของฮอร์โมนเพศชาย สุดท้ายแล้วอาการผมร่วงดังกล่าวจะนำไปสู่ลักษณะทรงผมเป็นแบบตัวอักษรเอ็ม (M) คือผมด้านข้างจะหดร่นเข้าไปและหลงเหลือแค่ผมบริเวณด้านหน้าที่แลดูยื่นแหลมออกมาเป็นรูปคล้ายเจดีย์สามเหลี่ยมซึ่งดูคล้ายตัวอักษรเอ็มนั่นเอง เป็นรูปแบบทรงผมของผู้ชายผู้มีปัญหาผมบางที่พบเห็นบ่อยที่สุด วิธีบรรเทาปัญหานี้ทำได้โดยการใช้ยาทาที่มีส่วนผสมของไมน็อกซิดิล (Minoxidil) หรือรับประทานยาที่มีส่วนผสมของ Finasteride ซึ่งช่วยลดผลกระทบจากการทำงานของฮอร์โมนและเร่งให้เส้นผมใหม่งอกขึ้นมา การผ่าตัดย้ายเซลล์ผมก็ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการแก้ไขปัญหาผมบางประเภทนี้
6. การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
ผมบางผมร่วงที่มีรูปแบบเฉพาะในเพศหญิงหรือที่เรียกอีกอย่างว่า โรคผมบางจากพันธุกรรม (Androgenetic alopecia) หรือที่เรียกสั้นๆว่า โรคศีรษะล้าน มีความคล้ายคลึงกับโรคผมร่วงในชาย (Male Pattern Baldness) หากคุณมาจากครอบครัวซึ่งมีคนในครอบครัวที่เป็นหญิงมีอาการผมบางลงเมื่อถึงช่วงอายุหนึ่ง ให้ทำใจไว้เลยว่าคุณอาจจะได้รับการถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์และมีสิทธิที่จะผมบางได้เช่นเดียวกัน ในขณะที่รูปแบบของผมบางในชายจะมีลักษณะผมร่นเข้าไปจากด้านข้างจนดูคล้ายรูปตัวเอ็ม ผมบางในผู้หญิงจะเป็นในลักษณะของผมที่เริ่มบางจากบริเวณกลางกระหม่อมและขยายออกไปเป็นวงกว้าง และลักษณะเด่นที่เห็นได้ชัดอีกอย่างหนึ่งคือเส้นผมจะมีความบางลงอย่างชัดเจน วิธีแก้ไขก็คล้ายกับโรคผมร่วงในเพศชายคือใช้ยาไมน็อกซิดิล (Minoxidil) หรือรับประทานยาที่มีส่วนผสมของ Finasteride ซึ่งช่วยในการชะลอการหลุดร่วงของเส้นผมได้ดีในระดับหนึ่ง
7. ฮอร์โมนเพศหญิง
ระหว่างการตั้งครรภ์ร่างกายของผู้หญิงจะมีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนซึ่่งอาจส่งผลให้เกิดอาการผมร่วง รวมไปถึงการที่ปรับเปลี่ยนตัวยาคุมกำเนิดหรือกระทั่งการหยุดใช้ยาก็อาจทำให้ผมร่วงได้เช่นกัน และอาจก่อให้เกิดผมร่วงระยะสั้น (Telogen Effluvium) ในเคสนี้จะมีความเป็นไปได้สูงในกรณีที่มีบุคคลในครอบครัวมีประวัติของการเกิดผมร่วงมาก่อน ผู้หญิงที่มีอายุเข้าสู่วัยทองหรือวัยหมดประจำเดือนก็อาจได้รับผลกระทบจากระดับฮอร์โมนที่แปรเปลี่ยนทำให้เกิดอาการผมร่วงได้เช่นเดียวกัน จากปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมดทำให้เกิดการกระตุ้นต่อมฮอร์โมนเพศชาย (Androgen) ที่อยู่บริเวณหนังศีรษะส่งผลให้ต่อมเส้นผมเกิดการตีบและหดตัวลง ทำให้เส้นผมขาดเลือดละสารอาหารหล่อเลี้ยงจนหลุดร่วงในที่สุด การแก้ไขนั้นทำได้โดยการกลับไปใช้ยาคุมกำเนิดตัวเดิมที่เคยใช้หรือปรึกษากับแพทย์เกี่ยวกับการใช้ยาคุมที่ไม่ส่งผลให้ผมร่วงหรือมีผลกระทบน้อยที่สุด
8. ความเครียดทางด้านจิตใจ
ความเครียดทางด้านจิตใจ (Emotional stress) นั้นส่งผลกระทบต่อเส้นผมน้อยกว่าความเครียดทางด้านร่างกาย (Physical stress) แต่ก็ยังอาจทำให้ผมร่วงได้ การที่คนคนหนึ่งประสบกับเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบทางด้านจิตใจอย่างรุนแรงเช่น การหย่าร้าง การสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก หรือการที่ต้องปรนนิบัติดูแลพ่อแม่ที่แก่เฒ่า ล้วนเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเครียดทางด้านจิตใจทั้งได้สิ้น อย่างไรก็ตามความเครียดทางจิตใจอาจไม่ใช่สาเหตุโดยตรงของปัญหาแต่จะเป็นตัวเร่งให้ปัญหาที่มีอยู่ก่อนหน้านั้นแย่ลงไปอีก วิธีแก้ปัญหาผมร่วงประเภทนี้ทำได้โดยการปรับสภาพจิตใจไม่ให้อยู่ในภาวะที่เครียดเกินไป กิจกรรมบางอย่างเช่นการออกกำลังกาย การไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจตามสถานที่ต่างๆ หรือแม้กระทั่งการเข้าพบพูดคุยกับจิตแพทย์เพื่อระบายความทุกข์ที่อยู่ในจิตใจก็สามารถช่วยทำให้ปัญหานี้ทุเลาลงได้
9. โรคโลหิตจาง
ผู้หญิงอายุระหว่าง 20 ถึง 49 ปี จำนวน 1 ใน 10 คนมักถูกตรวจพบว่าเป็นโรคโลหิตจางสาเหตุมาจากธาตุเหล็กในเลือดต่ำกว่าระดับที่ควรจะเป็นซึ่งเป็นเคสที่พบเห็นได้บ่อยที่สุด ซึ่งการที่จะยืนยันว่ามีอาการดังกล่าวจะต้องให้แพทย์เป็นผู้ทำการวินิจฉัยเท่านั้น การรับประทานอาหารเสริมหรืออาหารที่ให้ธาตุเหล็กที่เพียงพอก็สามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้ อาการโลหิตจางนอกจากจะแสดงออกอาการในรูปแบบของผมร่วงแล้วยังอาจมีอาการอื่นๆ อีกดังนี้คือ เหนื่อยง่าย ปวดศีรษะ มึนเวียน ผิวซีด มือและเท้าเย็น เป็นต้น
10. ภาวะขาดฮอร์โมนไทรอยด์
ภาวะขาดฮอร์โมนไทรอยด์ (Hypothyroidism) เป็นศัพท์ทางการแพทย์ที่อธิบายถึงภาวะที่ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ในปริมาณที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ต่อมไร้ท่อนี้มีอยู่บริเวณลำคอซึ่งผลิตฮอร์โมนซึ่งจำเป็นต่อกระบวนการเผาผลาญอาหาร รวมถึงสำคัญต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการโดยรวมของร่างกาย หากต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ออกมาน้อยเกินไปก็อาจทำให้ผมร่วงได้ แต่เพื่อให้แน่ใจว่าเรามีอาการของโรคดังกล่าวควรที่จะให้แพทย์ทำการตรวจเพื่อดูว่าเกิดจากสาเหตุนี้หรือไม่ การรักษาทำได้โดยการรับประทานยาเพิ่มฮอร์โมนซึ่งเมื่อใดก็ตามหากฮอร์โมนกลับมาอยู่ในระดับที่เหมาะสม อาการผมร่วงก็จะลดน้อยลงไป
11. การขาดวิตามินบี
ถึงแม้ว่าอาจจะเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แต่การขาดวิตามินบีก็ถือเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการผมร่วงได้ เช่นเดียวกับโรคโลหิตจาง การรับประทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของวิตามินบีก็สามารถช่วยลดอาการผมร่วงได้ในระดับหนึ่ง การปรับเปลี่ยนอุปนิสัยในการเลือกทานอาหารโดยหันมารับประทานปลา เนื้อสัตว์ ผักบางชนิด และผลไม้ยกเว้นกลุ่มตระกูลส้ม ก็จะช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินบีตามธรรมชาติที่เพียงพอ ซึ่งก็จะช่วยให้ทั้งสุขภาพเส้นผมและร่างกายโดยรวมกลับมาแข็งแรงอีกครั้งหนึ่ง
12. ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง
การทำงานที่ผิดปกติหรือบกพร่องของภูมิคุ้มกันของร่างกายอาจทำให้เกิดอาการผมร่วงประเภทผมร่วงเป็นหย่อมๆ (Alopecia areata) ซึ่งเกิดจากการที่ภูมิคุ้มกันร่างกายไม่รับรู้ต่อการมีอยู่ของเส้นผมและเข้าใจผิดว่าเป็นสิ่งแปลกปลอมซึ่่งต้องถูกกำจัดออกเฉกเช่นเชื้อโรคหรือของเสียอื่นๆ ในร่างกายส่งผลให้เกิดอาการผมบางผมร่วงในที่สุด การรักษาโดยการให้ยาจำพวกสเตอร์รอยด์ถือเป็นทางเลือกต้นๆ ที่นำมาใช้รักษา ผมร่วงอันเกิดจากภูมิคุ้มกันบกพร่องถือว่าเป็นอะไรที่ค่อนข้างคาดเดาสาเหตุยาก บางครั้งเมื่อผมกลับขึ้นมาใหม่ก็จะเกิดอาการร่วงเหมือนเดิมอีกในเวลาไม่นาน
13. โรคลูปัส
โรคที่เกิดจากภูมิคุ้มกันของร่างกายบกพร่องอย่างเช่นโรคลูปัสหรือเรียกสั้นๆ ว่า เอสแอลอี (Systemic lupus erythematosus, SLE) ก็เป็นสาเหตุหนึ่งซึ่งทำให้เกิดอาการผมร่วงได้ เช่นเดียวกับภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง เส้นผมจะถูกเซลล์ของระบบภูมิคุ้มกันทำลายอันเกิดจากความเข้าใจผิด และที่ทำให้อาการผมร่วงอันเกิดจากโรคนี้ดูน่ากลัวสุดๆ นั้นเป็นเพราะส่วนใหญ่แล้วหลังจากผมที่ร่วงแล้วบริเวณนั้นจะไม่มีเส้นผมกลับขึ้นมาใหม่อีกเลย หากอาการผมร่วงไม่รุนแรง คุณควรใช้การตัดแต่งทรงผมในการอำพรางปกปิดจุดที่ไม่มีผมหรือทำการตัดผมให้สั้น ซึ่งจะช่วยให้ผมหลุดร่วงน้อยลงได้
14. น้ำหนักลดลงมากในเวลาอันสั้น
การสูญเสียน้ำหนักตัวอย่างเฉียบพลันถือเป็นรูปแบบหนึ่งของความเจ็บปวดที่ร่างกายได้รับ แม้การลดน้ำหนักโดยทั่วไปนั้นจะถือเป็นสิ่งที่ดีสำหรับร่างกายคนเราก็ตาม การลดน้ำหนักอาจทำให้ร่างกายเสียสมดุลหรือการที่ไม่รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ก็อาจทำให้ร่างกายขาดสารอาหารเช่น วิตามินที่สำคัญๆ ซึ่งส่งผลให้ผมและรากผมอ่อนแอจนทำให้ผมหลุดร่วงได้ อาการผมร่วงที่มาพร้อมกับน้ำหนักที่ลดลงอาจบ่งบอกถึงความผิดปกติทางร่างกายและจิตใจอื่นๆ เช่น โรคกลัวอ้วน หรือภาวะบกพร่องของพฤติกรรมการกิน การฟื้นฟูจากสภาวะผมร่วงจากน้ำหนักตัวที่ลดลงโดยฉับพลันอาจต้องใช้เวลานานถึง 6 เดือน ผมถึงจะกลับมาขึ้นใหม่อีกครั้ง
15. การรักษามะเร็งโดยการให้คีโม
การรักษาผู้ป่วยมะเร็งโดยการให้คีโม (Chemotherapy) นั้นอาจทำให้ผมหลุดร่วงได้ เพราะการรักษาโดยการให้เคมีบำบัดหรือที่เรียกกันว่าคีโมนั้น นอกจากจะเป็นการทำลายเซลล์มะเร็งไม่ให้ลุกลามไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกายแล้ว ตัวยาที่ใช้รักษายังไปทำลายเซลล์อื่นๆ ในร่างกายซึ่งรวมถึงเซลล์เส้นผมซึ่งส่งผลให้เกิดผมหลุดร่วง แต่เมื่อใดก็ตามเมื่อหยุดการให้คีโมแล้วผู้ป่วยก็จะพบว่าผมบนศีรษะจะกลับขึ้นมาเหมือนเดิมอีกครั้งแต่อาจต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง และผมที่ขึ้นมาใหม่อาจจะมีลักษณะของเส้นผมที่ต่างไปจากเดิมเช่น เมื่อก่อนเส้นผมมีลักษณะตรงแต่ผมที่ขึ้นใหม่กลับกลายเป็นผมหยิกหรือกระทั่งสีผมผิดแผกไปจากเดิม จากผมสีดำกลายเป็นผมสีออกน้ำตาลหรือผมหงอก เป็นต้น ก็คงได้แต่หวังว่าในอนาคตวงการแพทย์อาจค้นพบตัวยาที่ใช้รักษามะเร็งโดยที่มีผลข้างเคียง (Side effects) เช่นก่อให้เกิดผมร่วงหรืออาการอื่นๆ น้อยลง
16. ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ
ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบหรือรังไข่ทำงานผิดปกติในเพศหญิง (PCOS) มีสาเหตุมาจากความผิดปกติของฮอร์โมนเพศ ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ มีปัญหาน้ำหนักเกิน มีความเสี่ยงเป็นเบาหวานสูง รวมถึงมีลักษณะของฮอร์โมนเพศชายสูงรวมถึงทำให้เส้นผมบางลง และเนื่องจากอิทธิพลของฮอร์โมนเพศชายที่สูงทำให้อาจจะมีขนขึ้นมากตามใบหน้าและลำตัว การรักษาโรคในกลุ่ม PCOS ทำได้โดยการลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย การรับประทานยาคุมบางตัวและรวมไปถึงการเข้าพบแพทย์เพื่อทำการรักษาในแบบเฉพาะทาง
17. การทานยารักษาโรคซึมเศร้าและยาเจือจางเลือด
การได้รับยาบางตัวอาจเป็นสาเหตุหนึ่งซึ่งทำให้ผมร่วง ยาที่ว่าหมายถึงยาเจือจางเลือดและยาลดความดันโลหิต นอกจากนั้นยาบางตัวเช่นยารักษาโรคสะเก็ดเงิน ไบโพลา (โรคสองบุคลิก) โรคปวดตามข้อ รวมถึงโรคซึมเศร้าก็อาจทำให้เกิดอาการผมร่วงได้อีกด้วย หากคุณกำลังเป็นโรคใดโรคหนึ่งที่กล่าวมาและประสบปัญหาผมร่วง ทางที่ดีควรที่จะปรึกษากับแพทย์ที่ดูแลและขอคำแนะนำเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนตัวยาที่จะไม่มีผลกระทบหรือมีผลกระทบต่อเส้นผมน้อยที่สุด
18. ผมเสียจากการทำผม
การตัดแต่งทรงผมหรือทำทรีตเมนท์ผมที่บ่อยและมากเกินพอดีรวมถึงการทำสีผมบ่อยๆสระผมบ่อยเกินความจำเป็นเป็นระยะเวลาติดต่อกันนานๆ อาจทำให้ผมเสียและหลุดร่วงได้ การทำผมบางทรงที่ทำให้เส้นผมถูกดึงรั้นอย่างรุนแรงเช่น ถักเปียติดหนังศีรษะหรือการใช้สารเคมีในการทำทรีตเมนท์หรือยืดผม การชโลมน้ำมันแต่งทรงผมหรือการเป่าผมโดยใช้ความร้อนระดับสูงก็ถือเป็นการทำร้ายเส้นผมได้ หากเป็นในระดับที่รุนแรงมากๆ อาจถึงขั้นทำให้รากผมถูกทำลายถาวรและผมใหม่ไม่สามารถขึ้นใหม่ได้อีก ทางที่ดีทุกครั้งหลังการสระผมควรใช้ครีมนวดผมเพื่อบำรุงผม หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนโดยตรงกับผม ปล่อยให้ผมแห้งเองโดยใช้ผ้าขนหนูนุ่มๆ ซับหรือเช็ดผมอย่างอ่อนโยน หลีกเลี่ยงการใช้ที่หนีบผมตรงกับเส้นผม และพยายามจำกัดการใช้งานอุปกรณ์ที่ใช้ความร้อนกับผมไม่เกินหนึ่งครั้งต่อสัปดาห์
19. ชอบถอนหรือดึงผมตัวเอง
อาการชอบดึงผมตัวเอง (Trichotillomania) ถือเป็นกลุ่มอาการ obsessive compulsive behavior คือพฤติกรรมย้ำคิดย้ำทำรูปแบบหนึ่งซึ่งจิตใต้สำนึกจะสั่งการให้คนผู้นั้นทำการดึงผมตัวเองออกเรื่อยๆ มักเกิดกับคนที่มีอาการวิตกกังวล เครียด หรือหดหู่ซึมเศร้า การดึงผมช่วยให้ลดความเครียด ความกังวลลงและสร้างความพึงพอใจหรือมีความสุขสำหรับผู้ที่มีอาการนี้ มักพบเห็นอาการดังกล่าวในหมู่วัยรุ่นและพบเจอในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายถึง 4 เท่าด้วยกัน การถอนผมนอกจากเป็นการทำลายเส้นผมและต่อมขนแล้วยังทำให้หนังศีรษะขาดการปกป้องจากแสงแดดและสิ่งแปลกปลอมอื่นๆ อีกด้วย การรักษาทำได้โดยรับประทานยาลดอาการซึมเศร้าและความเครียด หรือทางที่ดีควรเข้าพบจิตแพทย์หรือนักจิตบำบัดเพื่อวิเคราะห์หาต้นตอสาเหตุของปัญหาดังกล่าวเพื่อนำไปสู่การรักษาที่ได้ผล
20. ความแก่ชรา
ถือเป็นเรื่องปกติที่จะเห็นผู้หญิงในวัย 50 หรือ 60 ปีมีอาการผมบางและผมร่วง อย่างไรก็ตามผมร่วงจากสาเหตุนี้ยังไม่มีทางรักษาหรือแก้ไขได้อย่าง 100% ทางเลือกในการบรรเทาปัญหาอาจทำได้โดยการสวมใส่ผมเสริมหรือใช้ผ้าโพกศีรษะ หรือกระทั่งการให้ช่างทำผมออกแบบทรงผมที่สามารถปิดบังจุดที่ผมบางให้ดูกลมกลืนโดยที่ไม่มีใครแยกความแตกต่างได้ การรับประทานอาหารที่มีสารอาหารบำรุงเส้นผมหรือการตรวจสุขภาพร่างกายเป็นประจำเพื่อตรวจดูว่าคุณกำลังเป็นโรคที่ทำให้ผมร่วงหรือเปล่าเช่น ไทรอยด์เป็นพิษ เบาหวาน ความดัน ก็จะช่วยแก้ปัญหาที่ต้นเหตุได้
21. การรับสารสเตียรอยด์สังเคราะห์เข้าสู่ร่างกาย
สเตียรอยด์สังเคราะห์เพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อหรือที่เรียกทางการแพทย์ว่า Anabolic steroids ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในหมู่นักกีฬาโดยเฉพาะนักเพาะกาย คุณประโยชน์ของสารตัวนี้คือช่วยเพิ่มการสังเคราะห์โปรตีนโดยเฉพาะในกล้ามเนื้อและช่วยสลายไขมัน ทำให้กล้ามเนื้อขึ้นมาในเวลาอันรวดเร็ว การใช้สเตียรอยด์ลักษณะนี้มีข้อเสียต่อเส้นผมเช่นเดียวกับภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS) อย่างที่กล่าวไว้ในข้อ 16 คือทำให้ระบบการทำงานของอวัยวะภายในร่างกายเสียสมดุล แต่อาการผมร่วงก็จะหมดไปเมื่อหยุดใช้สารตัวนี้
จากเนื้อหาที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ จะเห็นได้ว่าในปัจจุบันนอกจากจะเป็นผู้ชายบางส่วนที่ประสบปัญหาผมบางผมร่วงแล้ว ก็ยังมีผู้หญิงจำนวนไม่น้อยที่ต้องเผชิญกับปัญหาเรื่องเส้นผมในแบบเดียวกัน ด้วยสภาพสังคมที่เสื่อมทรามลงรวมถึงวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันเต็มไปด้วยความเคร่งเครียดซึ่งก็ถือเป็นหนึ่งตัวเร่งให้เกิดปัญหาหรือทำให้ปัญหาด้านเส้นผมที่มีอยู่ก่อนแล้วย่ำแย่และเลวร้ายลงไปอีก
วิธีการแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างง่ายโดยเบื้องต้นนั้นก็คือ ทำจิตใจให้ปลอดโปร่งและอย่านำปัญหามาเรื่องผมมาคิดและสร้างความกังวลใจให้กับตนเองมากเกินไป อย่าลืมว่าใบหน้าและผิวพรรณรวมไปถึงรูปลักษณ์ภายนอกที่มองดูสดใสย่อมมาจากภายในคือจิตใจที่มีความสุข ปราศจากความเครียดใดๆ และมองโลกในแง่ดีอยู่ตลอดเวลาปัญหาเรื่องของผมบางนั้นถึงแม้ว่าจะดูเป็นปัญหาที่น่าหนักใจสำหรับหลายๆ คนแต่ก็ใช่ว่าจะไร้ทางแก้ไขเสียทีเดียว ในปัจจุบันมีทางเลือกมากมายในการแก้ไขปัญหาผมบางทั้งในแบบชั่วคราวและถาวร ฉะนั้นทางที่ดีควรที่จะทำใจให้เย็นๆ และลองวิเคราะห์ทางเลือกที่มีอยู่ ดูว่าวิธีการแก้ปัญหาแบบใดที่จะเหมาะสมและสร้างความพึงพอใจให้ตนเองได้มากที่สุด
ที่ พรสวรรค์ HAIR CENTER เราให้บริการด้านการทอผม เพิ่มผมหนา โดยการสวมใส่ผมเสริม สำหรับท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีที่มีปัญหา ผมบาง ผมร่วง ศีรษะล้าน ในราคาที่ย่อมเยา นอกจากนี้เรายังมีบริการเสริมความงามอื่นๆ เช่น ย้อมผม ทำสีผม อบไอน้ำ ตัดแต่งทรงผม ต่อผม ยืดผม รวมถึงมีบริการนวดไทยแผนโบราณในแบบต่างๆ อีกด้วย
นอกจากนี้เรายังมีช่องทางติดต่อผ่าน Official Websites ของทางร้านอีก 4 เว็บด้วยกันนั่นคือ