วิธีป้องกันผมร่วงผมบางเพื่อสุขภาพผมที่ดี
ในขณะที่คุณกำลังส่องกระจกสำรวจความเรียบร้อยของใบหน้าของคุณรวมถึงริ้วรอยต่างๆ คุณอาจจะสะดุดพบกับภาพของปัญหาผมร่วงผมบางบริเวณหน้าผากที่ดูน่าเป็นกังวลอย่างยิ่ง ทันใดนั้นเองความเงียบและความเครียดเริ่มที่จะเข้ามาครอบงำจิตใจของคุณ แน่นอนว่าสำหรับทุกคนแล้วนั้นเส้นผมถือว่ามีความสำคัญในลำดับต้นๆ เพราะรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูดีถือเป็นสิ่งที่คนเราทุกคนปรารถนา และเส้นผมที่ดูหนาเต็มศีรษะนั้นก็เปรียบเสมือนสิ่งเติมเต็มที่ทำให้ความสวยงาม, ความดูดีนั้นออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ
จากข้อมูลด้านสถิติและผลของการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องเส้นผมที่ผ่านมา ประมาณ 20% ของประชากรเพศชายจะเริ่มเกิดอาการผมร่วงผมบางเมื่ออายุล่วงเข้าสู่วัยช่วง 20 ปี โดยสาเหตุที่สำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหาดังกล่าวมาจากการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมหรือที่เราเรียกกันว่ากรรมพันธ์ที่มาจากทางพ่อแม่ปู่ย่าตายายของเรานั่นเอง ถึงแม้การถ่ายทอดลักษณะทางยีนส์จะมีส่วนสำคัญ แต่ตัวเราเองก็สามารถเป็นผู้ที่กำหนดชะตาชีวิตของเส้นผมของเราได้ ที่ว่านี้มิได้หมายถึงปาฏิหาริย์ที่จะบังเกิดได้ในพริบตาเพราะแม้ในปัจจุบันเทคโนโลยีจะก้าวล้ำมากเพียงใดแต่การแก้ปัญหาผมบางก็ยังมีข้อจำกัด อย่างไรก็ตามแต่ ยังมีหนทางอีกหลายอย่างที่เราสามารถนำมาปรับใช้เพื่อการป้องกันไม่ให้ผมหลุดล่วงมากกว่าที่เป็นอยู่ ต่อไปนี้คือข้อเสนอแนะและแนวทางการปฏิบัติตัวสำหรับผู้ที่กำลังประสบปัญหาผมร่วงผมบาง อ่านตามแต่ละข้ออย่างพิจารณาและนำไปปรับใช้แล้วรับรองว่าคุณจะเห็นผลลัพธ์ที่ดีที่จะเกิดขึ้นกับผมของคุณอย่างแน่นอน
ปัญหาผมบางถือเป็นเรื่องธรรมชาติ อย่าวิตกกังวลจนเกินเหตุ!
คนเราทุกเราต่างมีเส้นผมที่หลุดร่วงจากหนังศีรษะในทุกๆ วัน ถือเป็นเรื่องปกติที่จะพบเห็นภาพของเส้นผมที่ติดมากับหวีเวลาที่ทำการหวีผมบนศีรษะ เส้นผมประมาณ 80-120 เส้นจะหลุดร่วงต่อวันเนื่องมาจากครบวงจรชีวิตของมัน ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลหากเห็นเรื่องดังกล่าว คุณยังสามารถดำเนินชีวิตประจำวันของคุณได้ตามปกติเพียงแต่พยายามอย่าให้จิตใจมีความเครียดและรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ หากแต่เมื่อใดก็ตามที่คุณสังเกตุเห็นอาการผมร่วงมากจนผิดปกติก็ถึงเวลาที่คุณจะต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อแก้ไขปัญหา ผมบางผมร่วงมีสาเหตุจากหลายประการด้วยกัน เช่น เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย การใช้ชีวิตโดยไม่ระวังเรื่องของสุขภาพ การรับประทานอาหารจำพวกจานด่วน (Fast Food) มากเกินไป ความเครียดในชีวิตประจำวัน การได้รับยาบางตัว การขาดแร่ธาตุวิตามินบางตัว ต่อมฮอร์โมนไทรอยด์ทำงานผิดปกติ ผู้หญิงที่อยู่ในวัยหมดประจำเดือน ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม หากคุณสงสัยว่าปัจจัยทั้งหลายเหล่านี้อาจเป็นสาเหตุทำให้ผมร่วงก็ควรที่จะหาวิธีการแก้ไขให้เรียบร้อยเสียก่อน แล้วหลังจากนั้นลองทำตามคำแนะนำที่เราอยากให้คุณลองนำไปปฏิบัติดังต่อไปนี้
การนวดศีรษะ
ในปัจจุบันมีผู้คนจำนวนมากที่นิยมใช้การนวดศีรษะหรือหนังศีรษะในการแก้ไขและป้องกันไม่ให้ผมหลุดร่วงในเวลาเดียวกัน
ทำไมการนวดศีรษะถึงมีความจำเป็น?
การนวดหนังศีรษะจะมีส่วนช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดที่หล่อเลี้ยงต่อมเส้นผมทำให้การทำงานของต่อมผมและเส้นผมดีขึ้นซึ่งช่วยสร้างความแข็งแรงให้แก่เส้นผมรวมถึงรักษาความสมดุลให้เกิดขึ้นกับหนังศีรษะ การนวดจะช่วยกระตุ้นและขยายหลอดเลือดบนหนังศีรษะทำให้สามารถดูดซึมสารอาหารที่จำเป็นได้มากขึ้น อย่าลืมว่าเส้นผมนั้นถือเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของร่างกายที่ต้องการได้รับสารอาหารที่จำเป็นและพอเพียงต่อการเจริญเติบโตและคงอยู่ การนวดศีรษะโดยใช้น้ำมันเป็นส่วนประกอบยังช่วยป้องกันเส้นผมจากการเกิดรังแคซึ่งก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผมหลุดร่วงได้ ไม่เพียงแต่ช่วยในเรื่องของเส้นเลือดบนหนังศีรษะเท่านั้น การนวดยังทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและลดความตึงเครียดลงได้ซึ่งความเครียดก็ถือเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดอาการผมร่วง ดังนั้นในเมื่อการนวดศีรษะมีข้อดีเช่นนี้แล้ว ทำไมคุณจึงไม่ลองนวดศีรษะเป็นประจำสักอาทิตย์ละ 2-4 ครั้งดูหล่ะ? นอกจากจะช่วยป้องกันไม่ให้ผมร่วงแล้วยังช่วยให้เส้นผมแข็งแรงแลดูเงางาม ในส่วนของการใช้น้ำมันเป็นส่วนประกอบนั้นมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
น้ำมันที่ใช้ในการป้องกัน/ลดอาการผมบางผมร่วง
น้ำมันที่นำมาใช้ในการรักษาอาการผมบางผมร่วงดังต่อไปนี้อาจแยกได้เป็น 3 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ น้ำมันสมุนไพร (Herbal Oils) น้ำมันหอมระเหย (Essential Oils) และน้ำมันกระสายยา (Carrier Oil) หรือน้ำมันตัวพา (Base Oils)
น้ำมันตัวพาจะนำมาใช้เจือจางน้ำมันหอมระเหยอีกทีหนึ่งเพื่อให้ได้น้ำมันที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมก่อนนำไปชโลมบนผิวหนังก่อนทำการนวด ในขณะที่น้ำมันสมุนไพรส่วนใหญ่จะมีคุณสมบัติที่พร้อมสำหรับการใช้งานได้โดยทันทีโดยที่ไม่ต้องนำมาผสมกับน้ำมันตัวอื่นๆ
น้ำมันมะพร้าว
น้ำมันมะพร้าวอาจจะถือได้ว่าเป็นน้ำมันที่ให้ผลในการรักษาอาการผมร่วงได้ดีที่สุดเมื่อเทียบกับน้ำมันอื่นๆ น้ำมันมะพร้าวถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในบางประเทศ เช่น อินเดีย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจแต่อย่างใดเมื่อมองถึงเส้นผมที่เงางามและแข็งแรงของผู้หญิงอินเดียโดยมาก น้ำมันมะพร้าวทำหน้าที่เสมือนกาวเคลือบผนังเส้นผมไม่ให้สูญเสียมอยเจอร์ไรเซอร์หรือความชุ่มชื้นไป นอกเหนือจากแร่ธาตุสำคัญซึ่งมีอยู่ในตัวน้ำมันมะพร้าวแล้ว กรดลอริกในน้ำมันมะพร้าวยังมีคุณสมบัติต่อต้านเชื้อแบคทีเรียส่งผลให้หนังศีรษะปลอดภัยจากการติดเชื้อต่างๆ อีกด้วย
น้ำมันมะกอก
น้ำมันมะกอกอุดมไปด้วยสานต้านอนุมูลอิสระซึ่งนอกจากเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่เส้นผมแล้วยังถือเป็นแหล่งให้สารอาหารที่สำคัญ นอกจากนั้นยังช่วยในเรื่องการดูดซึมธาตุอาหารและช่วยควบคุมการทำงานของฮอร์โมนซึ่งมีผลทำให้เส้นผมลีบเล็กและร่วงนั่นก็คือ DTH น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์แท้ 100% ถือเป็นน้ำมันที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดในการนำมาใช้เพื่อหวังผลการรักษาอาการผมบางผมร่วงเพราะอุดมไปด้วยวิตามิน E และกรดไขมันที่ไม่อิ่มตัวซึ่งนอกจากจะช่วยป้องกันไม่ให้ผมร่วงแล้วยังช่วยในการเจริญเติบโตของผมที่จะขึ้นใหม่อีกด้วย
น้ํามันอัลมอนด์
น้ํามันอัลมอนด์อาจถือได้ว่าเป็นน้ำมันที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุในปริมาณที่มากที่สุดหากเทียบกับน้ำมันประเภทอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน E, D, ธาตุเหล็ก, แมกนีเซียม, แคลเซียมและกรดไขมันอื่นๆ น้ำมันอัลมอนด์ยังสามารถใช้เป็นน้ำมันตัวนำ (Base Oil) ในยามที่ทาน้ำมันหอมระเหยลงบนหนังศีรษะซึ่งช่วยทำให้น้ำมันแทรกซึมลงไปอย่างช้าๆ และลงลึกถึงรากผม ด้วยวิธีนี้ทำให้เส้นผมได้รับคุณประโยชน์ทั้งจากสมุนไพรรวมถึงสารอาหารในน้ำมันหอมระเหยอีกด้วย
น้ำมันดอกลาเวนเดอร์
น้ำมันดอกลาเวนเดอร์ถือเป็นน้ำมันที่มีคุณประโยชน์อันน่าอัศจรรย์ นอกจากกลิ่นที่หอมเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นแล้ว สารต้านอนุมูลอิสระที่อุดมอยู่ในน้ำมันดอกลาเวนเดอร์ยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดผมร่วงและมีคุณสมบัติช่วยป้องกันหนังศีรษะจากเชื้อราและจุลินทรีย์อีกด้วย ทั้งยังช่วยป้องกันการเกิดรังแคและอาการคันบนหนังศีรษะ ลดอาการผมแตกปลาย ในทางการแพทย์น้ำมันดอกลาเวนเดอร์ยังถูกนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของการรักษาโรคผมร่วงเป็นวงกลม (alopecia areata) โดยการนำน้ำมันมาชโลมในบริเวณที่มีปัญหาและทำการนวดเบาๆ ทุกวันซึ่งก็ให้ผลการรักษาที่ดีในระดับหนึ่ง
น้ำมันหอมระเหยโรสแมรี่
น้ำมันหอมระเหยโรสแมรี่ที่สกัดมาจากใบอ่อนของต้นโรสแมรี่ถือเป็นอีกหนึ่งในน้ำมันหอมระเหยหลายๆ ตัวที่ถูกนำมาใช้ในการรักษาอาการผมบางผมร่วงแม้ในกระทั่งผู้ที่มีปัญหาโรคผมร่วงเป็นวงกลมแบบเฉียบพลัน น้ำมันชนิดนี้เร่งการเจริญเติบโตของรากผมและช่วยให้การไหลเวียนของเลือดบริเวณหนังศีรษะดีขึ้นซึ่งส่งผลให้เส้นผมเกิดความแข็งแรงและกระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผม น้ำมันโจโจบา, น้ำมันเมล็ดองุ่นรวมถึงน้ำมันอัลมอนด์ได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิภาพสูงในการเป็นน้ำมันตัวพาสำหรับใช้ร่วมกับน้ำมันหอมระเหยโรสแมรี่ การนำมาใช้นั้นก็ทำได้ง่ายๆ โดยผสมน้ำมันตัวพาเข้ากันกับน้ำมันหอมระเหยโรสแมรี่และนวดลงบนหนังศีรษะเบาๆ ทุกวันหรือวันเว้นวันแล้วแต่ความต้องการ
น้ำมันหอมระเหยเจอราเนียม
น้ำมันหอมระเหยเจอราเนียมที่ถูกสกัดจากใบอ่อนและลำต้นมีประโยชน์อย่างมากต่อทั้งผมแห้งและผมมัน มีส่วนช่วยในการทำงานของต่อมไขมันบนหนังศีรษะและควบคุมการทำงานของสารคัดหลั่งบริเวณไขผิวหนังซึ่งช่วยให้เส้นผมแข็งแรงและทำให้ผมแลดูนุ่นสลวยและมีน้ำหนัก สามารถนำมาใช้กับน้ำมันตัวพาทั่วๆ ไปไม่ว่าจะเป็นโจโจบา เมล็ดองุ่น อัลมอนด์ และน้ำมันมะพร้าว
เคล็ดลับดีๆ ในการนำน้ำมันหอมระเหยมาใช้เพื่อแก้ปัญหาผมบางผมร่วง
ต่อไปนี้คือวิธีการนำเอาน้ำมันหอมระเหยประเภทต่างๆ มาผสมกันเพื่อให้ได้โลชั่นที่ใช้ป้องกันอาการผมบางผมร่วงอย่างได้ผลรวมถึงวิธีการนำเอาไปใช้เพื่อการรักษาหรือบรรเทาอาการผมหลุดร่วง ส่วนผสมที่ใช้มีดังต่อไปนี้คือ
- น้ำกลั่นหรือถ้าหาไม่ได้ก็สามารถใช้เป็นน้ำสะอาดธรรมดาได้ 50 cc
- น้ำส้มสายชูหมักจากผลแอปเปิล 15 cc
- น้ำมันหอมระเหยโรสแมรี่ 5 หยด (ประมาณ)
- น้ำมันโจโจบา 6 หยด (ประมาณ)
- น้ำมันหอมระเหยเมล็ดแครอทหรือน้ำมันแครอท 3 หยด (ประมาณ)
- น้ำมันหอมระเหยเจอราเนียม 3 หยด (ประมาณ)
วิธีการนำมาใช้
- ผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากับในขวดหรือภาชนะที่มีฝาปิดและทำการเขย่าเพื่อให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันจะได้เป็นโลชั่น
- หลังจากสระผมเสร็จใหม่ให้ใช้ผ้าขนหนูซับผมเบาๆ ให้ผมพอเปียกหมาดๆ
- เทโลชั่นซึ่งเกิดจากการผสมส่วนผสมทั้งหมดลงบนฝ่ามือประมาณ 2 ช้อนชา
- นวดโลชั่นกับหนังศีรษะโดยใช้น้ำหนักเบาถึงปานกลาง คลึงบริเวณที่ผมร่วงหรือผมบางให้ทั่วจนกระทั่งโลชั่นซึมลงไปจนหมด
- โลชั่นที่เหลืออยู่ให้นำเก็บไว้ในช่องแช่ธรรมดาของตู้เย็น
- ไม่ต้องตกใจหากสังเกตุเห็นว่าตัวโลชั่นแบ่งออกเป็นชั้นๆ เมื่อนำออกมาใช้ครั้งต่อไป เพียงแค่เขย่าให้เข้ากันก่อนใช้ก็จะกลับคืนสู่สภาพเดิม
- พยายามนวดหนังศีรษะด้วยโลชั่นนี้อย่างน้อยวันละหนึ่งครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีควรใช้นวดหนังศีรษะอย่างต่อเนื่องทุกวันเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 เดือน แล้วให้ลองสังเกตุดูว่าผมของคุณมีอาการร่วงน้อยลงกว่าเดิมหรือไม่อย่างไร
การเลือกรับประทานอาหารที่ช่วยป้องกันอาการผมบางผมร่วง
หากปราศจากรากฐานที่แข็งแรงมั่นคง สิ่งปลูกสร้างใดๆ ก็มีโอกาสที่จะพังครืนได้ทุกเมื่อ เฉกเช่นเดียวกันกับเส้นผมของคนเรา หากไม่ได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์อย่างเพียงพอแล้วไซร้ก็มีโอกาสที่จะร่วงหล่นได้ในทุกเมื่อ ดังนั้น คุณจึงควรเริ่มที่จะเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมและมีสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม รายการอาหารดังต่อไปนี้คือคำตอบสำหรับปัญหาการป้องกันการเกิดอาการผมบางผมร่วงไม่ว่าจะในหมู่ผู้ที่กำลังประสบปัญหาอยู่ ณ ขณะนี้หรือจะเป็นผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงอาการที่ไม่พึงปรารถนาดังกล่าว
กรดไขมันโอเมก้า 3
กรดไขมันโอเมก้า 3 มีคุณประโยชน์ตรงที่สามารถซึบซับเข้าสู่ชั้นเซลล์ของหนังศีรษะได้อย่างรวดเร็ว อย่างแรกเลย กรดไขมันนี้อุดมไปด้วยสารอาหารที่มิเพียงแต่ป้องกันไม่ให้ผมหลุดร่วงแต่ยังช่วยในเรื่องของการเจริญเติบโตของรากผมและเส้นผมอีกด้วย ประโยชน์อีกประการคือ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่เส้นผมทำให้ผมไม่หักหรือแตกปลายง่าย สุดท้าย โอเมก้า 3 ยังช่วยให้ผมชุ่มชื่นไม่แห้งเสียและช่วยป้องกันจากปัญหารังแคอีกด้วย
อาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 บางส่วนที่ขอแนะนำในที่นี้คือ
เมล็ดแฟล็กซ์ (Flaxseed)
วอลนัต (Walnut)
ปลาแซลมอน (Salmon)
ปลาซาร์ดีน (Sardine)
ถั่วเหลือง (Soybean)
อาหารที่มีธาตุสังกะสีสูง
การที่ร่างกายได้รับธาตุเหล็กในปริมาณที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการคือสาเหตุประการหนึ่งซึ่งนำมาซึ่งปัญหาผมบางผมร่วง ธาตุเหล็กมีส่วนช่วยสร้างโปรตีนซึ่งสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม, รักษาสมดุลของ DNA ของร่างกายและช่วยซ่อมแซมกล้ามเนื้อที่สึกหรอ ทั้งยังช่วยควบคุมระดับฮอร์โมนในร่างกายอันได้แก่ฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone) ซึ่งฮอร์โมนนี้หากมีในระดับที่สูงมากเกินไปก็จะส่งผลทำให้เกิดอาการผมบางผมร่วงได้
อาหารเหล่านี้ได้แก่
-อาหารทะเล เช่น หอยรางรมหรือปู
-เนื้อวัวไม่ติดมัน
-จมูกข้าวสาลี
-ผักโขม
-เมล็ดฟักทองและเมล็ดดอกทานตะวัน
-ถั่วต่างๆ
-เนื้อหมูและเนื้อไก่
อาหารที่มีธาตุโปรตีนสูง
ทำไมถึงต้องทานโปรตีน?
เพราะว่าเส้นผมของคนเรานั้นประกอบขึ้นจากธาตุโปรตีนเป็นหลัก ดังนั้น หากคุณไม่รับประทานอาหารที่มีธาตุโปรตีนในปริมาณที่เหมาะสมคุณก็อาจที่จะสูญเสียเส้นผมอันเป็นที่รักยิ่งได้ การขาดธาตุโปรตีนคือสาเหตุสำคัญของอาการผมร่วงในเพศชาย
อาหารเหล่านี้ได้แก่
-นม, ชีส, โยเกิร์ต
-ถั่วเลนทิล
-อาหารทะเล เช่น ปลาแซลมอน
-เนื้อสัตว์ตระกูลสัตว์ปีก
-ไข่
-ถั่วต่างๆ
-ถั่วเหลือง
-เนื้อวัวไม่ติดมัน
อาหารที่มีธาตุเหล็กสูง
ทำไมถึงต้องทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง?
ธาตุเหล็กเปรียบเสมือนสื่อนำพาออกซิเจนกระจายไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกายคนเรา การที่ร่างกายได้รับธาตุเหล็กในปริมาณที่น้อยหรือขาดแคลนย่อมหมายถึงปริมาณออกซิเจนที่ส่งไปยังส่วนศีรษะนั้นได้รับน้อยลงตามไปด้วยซึ่งย่อมส่งผลให้รากผมไม่แข็งแรงซึ่งจะนำไปสู่ปัญหาผมร่วงตามมาในที่สุด
อาหารเหล่านี้ได้แก่
ไข่แดง
เนื้อสัตว์ที่มีสีแดง เช่น เนื้อวัว หมู
ผักใบเขียวเข้ม
ผลไม้อบแห้ง เช่น ลูกพรุน ลูกเกด
เนื้อสัตว์ที่ได้มาจากสัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลัง เช่น หอยนางรม หอยกาบ หอยเชลล์
เนื้อไก่งวง
ถั่วจำพวกต่างๆ เช่น ถั่วเลนทิล ถั่วเหลือง ถั่วลูกไก่
เครื่องในจากสัตว์จำพวกตับ
วิตามินเอและวิตามินซี
ทำไมต้องทานวิตามินเสริม?
วิตามินเหล่านี้ช่วยในการสร้างเซลล์ไขมันบนชั้นผิวหนัง ซึ่งชั้นไขมันนี้เองทำหน้าที่ในการปกคลุมรากผมซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้ผมแตกหักหรือผมเสีย วิตามินซียังช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก อย่างไรก็ตาม ไม่ควรที่จะรับประทานวิตามินเหล่านี้ในปริมาณที่มากเกินควร การได้รับวิตามินมากเกินไปสามารถทำให้เกิดอาการผมร่วงได้ ดังนั้น จึงควรรับประทานในปริมาณที่ไม่เกินปริมาณที่แพทย์แนะนำในแต่ละวัน
อาหารเหล่านี้ได้แก่
มันฝรั่ง
แครอท
ผักขม
มะละกอ
สตอเบอร์รี
สัปปะรด
ส้ม
กีวี
การใช้สมุนไพรในการบำบัดอาการปัญหาผมบางผมร่วง
ในกรณีที่คุณประสบปัญหาผมบางผมร่วงชนิดรุนแรง สมุนไพรบางตัวมีสรรพคุณที่ช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ได้ ชนชาติอินเดียหรือชาวอเมริกันพื้นเมืองคือตัวอย่างหนึ่งของผู้ที่ประยุกต์ใช้สมุนไพรในการรักษาอาการด้านเส้นผมนี้
ต้นกะเม็ง
กะเม็ง เป็นพืชสมุนไพรของไทย ถูกนำมาใช้ในด้านการรักษาโรคมาอย่างยาวนาน มีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามพื้นที่ปลูก เช่น กะเม็งตัวเมีย คัดเม็ง บังกีเช้า หญ้าสับ หรือ ฮ่อมเกี่ยว เป็นต้น ถือเป็นส่วนประสมหลักของน้ำมันอายุรเวทโบราณรวมถึงยาน้ำบำรุงเส้นผมที่นำมาใช้ในการรักษาผมบางผมร่วง ถือเป็นสมุนไพรที่ได้รับการยอมรับว่าใช้ได้ผลในการรักษาปัญหาด้านเส้นผมต่างๆ รวมถึงช่วยชะลอการเกิดผมหงอกในคนทั่วไปอีกด้วย
ส่วนผสม
ลำต้นกะเม็งและใบ ประมาณ 50 กรัม
น้ำมันมะพร้าว 200 มล
เม็ดฟีนูกรีก (Fenugreek) 2 ช้อนชา
วิธีการทำน้ำมันสกัดจากต้นกะเม็ง
- บดต้นและใบกะเม็งให้ละเอียด
- ใส่น้ำมันมะพร้าวลงในหม้อหรือกะทะขนาดเล็ก ตั้งบนไฟอ่อนๆ
- ใส่ต้นกะเม็งที่บดไว้พร้อมทั้งเม็ดฟีนูกรีกลงพร้อมกัน
- ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที สังเกตว่าน้ำมันจะเริ่มเป็นฟองผุดขึ้นมา
- ตัดไฟ และทิ้งไว้ให้เย็นแล้วหาอะไรมาปิดพาชนะไว้ ทั้งไว้เช่นนั้นจนกระทั่งเช้า
- กรองและเทน้ำมันที่ได้ลงในขวดแก้วหรือพลาสติกแล้วแต่ความสะดวก
น้ำมันสกัดที่ได้นี้สามารถนำมาใช้ชโลมและนวดศีรษะเป็นประจำได้ทุกวัน เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นของเส้นผมบนหนังศีรษะของคุณได้
มะขามป้อม
มะขามป้อมเป็นผลไม้ที่มีถิ่นกำเนิดมาจากทางแถบชมพูทวีป อุดมไปด้วยสารอาหารจำพวกวิตามินซีและธาตุเหล็ก มะขามป้อมถูกนำมาใช้ตั้งแต่สมัยกาลโบราณในการรักษาอาการผมร่วง
ส่วนผสม
ผลมะขามป้อมฝานเป็นชิ้นเล็กๆ ตากแห้ง
น้ำมันมะพร้าว
วิธีการทำน้ำมันสกัดจากผลมะขามป้อม
- เทน้ำมันมะพร้าวลงในกะทะ ตั้งไฟอ่อนๆ
- ใส่มะขามป้อมที่ตากแห้งลงในกะทะ เคี่ยวทิ้งไว้จนกระทั่งสีของมะขามป้อมเปลี่ยนเป็นสีดำคล้ำ
- ตัดไฟและปล่อยทิ้งไว้ให้เย็น
- กรองเอาแต่น้ำมันและเก็บใส่ขวดเพื่อนำไปใช้
สามารถนำน้ำมันสกัดนี้มาใช้ชโลมให้ทั้วหนังศีรษะและทำการนวดคลึงเบาๆ ให้ผลการรักษาที่ดีเช่นเดียวกันกับน้ำมันที่ได้จากต้นกะเม็ง
ว่านหางจระเข้
มิเพียงแต่ศาสตร์โบราณอย่างอายุรเวทที่นำว่านหางจรเข้มาใช้ในการรักษาอาการผมร่วง แพทย์แผนอียิปต์โบราณในสมัยก่อนมีการนำพืชชนิดนี้มาใช้บำบดอาการด้านเส้นผมด้วยเช่นกัน ว่านหางจรเข้มีส่วนประกอบของเอนไซม์ที่ช่วยชะล้างเซลล์ที่ตายแล้วบนหนังศีรษะให้หลุดลอกออกเพื่อป้องกันการอุดตันของรากผมซึ่งทำให้สารอาหารที่สำคัญต่างๆ ไม่สามารถถูกดูดซึมได้ ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เส้นผมอ่อนแอและหลุดร่วงในท้ายที่สุด ความด่างของว่านหางจรเข้ช่วยปรับสมดุลค่าพีเอชให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ช่วยให้เส้นผมใหม่เติบโตแทนที่ผมเดิมที่หมดสภาพไป
ส่วนผสมในการทำเจลหมักผมว่านหางจรเข้
เจลว่านหางจรเข้ครึ่งถ้วย
น้ำมันระหุ่ง 2 ช้อนชา
แป้งเม็ดฟีนูกรีก 2 ช้อนชา
ใบโหระพาบดละเอียด 2 ช้อนชา
นำส่วนผสมทั้งหมดคลุกเคล้าเข้าด้วยกัน จะได้ออกมาเป็นเจลเนื้อเหนียวพร้อมใช้
วิธีการนำมาใช้
- ป้ายเจลที่เตรียมไว้ลงบนทั้งหนังศีรษะรวมถึงเส้นผม ใช้มือและนิ้วเกลี่ยให้ทั่วทั้งศีรษะ
- หากเป็นในเวลากลางคืนให้สวมใส่หมวกคลุมศีรษะสำหรับอาบน้ำก่อนเข้านอนแล้วทิ้งไว้จนถึงตอนเช้า
- ล้างเจลบนศีรษะด้วยแชมพูอย่างอ่อน
- ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ เป็นระยะเวลาติดต่อกันสัก 3-4 แล้วจะสังเกตุเห็นว่าเส้นผมบนหนังศีรษะนั้นแลดูหนาและดกดำขึ้น
วิธีจัดการกับความเครียด
เชื่อหรือไม่ว่า ต่อให้คุณปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัดในเรื่องของการควบคุมอาหารหรือรับประทานวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นในการบำรุงเส้นผมอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายแล้วผลลัพธ์ที่ออกมาก็ยังคงเป็นเช่นเดิมเพียงเพราะคุณมองข้ามปัจจัยที่อาจถือได้ว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดไปนั่นคือ ความเครียด ฉะนั้น จะเป็นดีอย่างยิ่งหากคุณสามารถหาที่มาที่ไปของการทำให้เกิดความเครียดนั้นได้เพื่อที่จะทำการแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด ข้อแนะนำต่อไปนี้เป็นประโยชน์สำหรับคุณในการนำไปประยุกต์ใช้เพื่อลดปัญหาและจัดการกับความเครียดของคุณให้ลงมาอยู่ในระดับที่เหมาะสม อย่างไรก็ตามแต่ คุณเท่านั้นที่จะเป็นผู้กำหนดได้ว่าจะก้าวข้ามปัญหาเรื่องความเครียดของตัวคุณได้อย่างไร การมองโลกในแง่ดีอยู่ตลอดเวลาน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้
การนั่งสมาธิ
วิธีการอย่างง่ายในการแก้ปัญหาความเครียดอย่างหนึ่งนั่นคือ การทำสมาธิหรือนั่งสมาธิ วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายและไม่ต้องลงทุนแต่ประการใด และสามารถที่จะปฏิบัติได้ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนหรือทำควบคู่ไปกับกิจกรรมใดๆ ที่กำลังทำอยู่ วิธีทำสมาธินั้น เพียงแค่หาเวลาว่างสักประมาณ 5 นาที นั่งลงกับพื้นยืดหลังให้ตรง ปิดตาลงและเพ่งความสนใจไปที่ลมหายใจเข้า-ออก สูดหายใจเข้าอย่างช้าๆ ให้ลมหายใจนั้นวิ่งเข้าสู่ปอดอย่างเต็มที่ พอหายใจเข้าสุดแล้วก็ค่อยๆ ปล่อยให้ลมนั้นคลายออกมาอย่างช้าๆ จนจบ ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ เป็นเวลาอย่างน้อยสัก 15 นาที ทำเช่นนี้ทุกวันหรือทุกครั้งที่มีโอกาส เพียงแค่นี้ก็จะช่วยให้ความเครียดของคุณนั้นลดลงไปได้อย่างมากเลยทีเดียว
การออกกำลังกาย
การออกกำลังกายมิเพียงแต่ช่วยทำให้ร่างกายของคุณนั้นแข็งแรงแต่ยังช่วยทำให้ความเครียดนั้นลดลงไปอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบใด เดิน วิ่ง เล่นโยคะ ว่ายน้ำ เล่นแอโรบิค หรือกระทั่งการละเล่นทั่วๆ ไป ช่วยทำให้หลั่งฮอร์โมนแห่งความสุขทำให้ลดอาการเครียดและทำให้ทั้งสุขภาพใจและร่างกายแข็งแรง
การหาทางแสดงออกอารมณ์ในเวลาที่รู้สึกพลุ่งพล่าน
การที่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับคนในสังคมจะช่วยทำให้ไม่รู้สึกเครียดเกินไป การได้พูดคุยกับคนรอบข้างจะเป็นเพื่อน แฟน คนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยต่อหน้าหรือกระทั่งการคุยทางโทรศัพท์ ทว่าหากไม่มีโอกาสที่จะพูดออกมาเป็นคำพูดก็ลองเขียนเป็นตัวอักษรลงบนกระดาษถึงสิ่งที่คุณคิดและรู้สึก จะทำในรูปแบบของการเขียนลงบันทึกประจำวันส่วนตัวก็ได้ วิธีนี้ก็ถือเป็นวิธีที่ดีในการควบคุมไม่ให้เกิดความเครียดมากจนเกินไป
การหมั่นดูแลและให้ความสำคัญกับเส้นผม
การให้ความสำคัญกับสิ่งใดๆ ก็ตามในที่สุดก็จะเป็นการช่วยปกป้องและส่งเสริมสิ่งนั้นๆ ให้ดูดีได้ เส้นผมของคนเราก็เช่นกัน พยายามรักษาเส้นผมและหนังศีรษะให้สะอาดอยู่ตลอดเวลา พยายามอย่าใช้สารเคมีที่อาจส่งผลร้ายต่อเส้นผมหรือทำทรีตเมนต์ที่เป็นอันตรายต่อผม เช่น ทำสีผมหรือทำผมทรงที่ก่อให้เกิดการดึงรั้งเส้นผมซึ่งส่งผลให้เส้นผมหลุดร่วงได้ เช่น มัดผมเปีย เป็นต้น ต่อไปนี้คือคำแนะนำสำหรับการป้องกันไม่ให้ผมของคุณเกิดการหลุดร่วง
-หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนโดยตรงกับเส้นผม เช่น การเป่าผมให้แห้ง, หนีบผม, ยืดผมตรง เนื่องจากความร้อนนั้นทำให้เส้นผมเกิดความเสียหายโดยส่งผลให้โปรตีนที่อยู่ในผมถูกทำลายลงซึ่งจะนำไปสู่การหลุดร่วงในที่สุด หรือหากหลีกเลี่ยงการทำผมลักษณะนี้ไม่ได้จริงๆ ก็ควรจะกระทำนานๆ ครั้ง
-หลีกเลี่ยงการใช้ยางมัดผมซึ่งคุณภาพไม่ดีหรือทำจากวัสดุที่ไม่ได้คุณภาพเนื่องจากอาจรัดแน่นจนถึงได้ผมหลุดจากหนังศีรษะได้ หรือการทำผมบางทรง เช่น รวบผมรัดผม อาจทำให้เส้นผมถูกดึงรั้งมากจนเกินไปจะนำไปสู่การขาดหลุดร่วงและแตกปลายในที่สุด
-หลีกเลี่ยงการหวีผมในขณะที่เส้นผมยังคงเปียกอยู่ซึ่งอย่างที่เคยได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า ผมจะอ่อนแอที่สุดเวลาที่เปียกน้ำและสามารถหลุดร่วงได้ง่ายหากมีการหวีหรือปัด หวีที่ใช้ควรมีซี่ที่ห่างและควรเป็นแบบที่มีหมุดพลาสติกที่แปลงของหวีแต่ละซี่ซึ่งจะช่วยถนอมหนังศีรษะได้ดีกว่าหวีแบบทั่วๆ ไป
เมื่อได้อ่านบทความทั้งหลายเหล่านี้ตั้งแต่ต้นจนจบลง หลายๆ ท่านอาจเกิดความรู้สึกที่ว่าการดูแลรักษาเส้นผมของตนเองนั้นช่างดูเป็นเรื่องที่ยุ่งยากน่าหนักใจเสียนี่กระไร อย่างไรก็ตามแต่ หากคุณได้ลองปฏิบติตามคำแนะนำที่ได้กล่าวมาทั้งหมดนั้นอย่างเป็นขั้นตอนและกระทำอย่างต่อเนื่องภายใต้กรอบระยะเวลาที่เหมาะสม คุณก็จะรับรู้ได้ถึงผลลัพธ์อันเป็นที่น่าพอใจในการที่หยุดปัญหาผมบางผมร่วงอันนำมาซึ่งความเครียดและความทรมานทั้งทางร่างกายและจิตใจ
ที่ พรสวรรค์ HAIR CENTER ให้บริการแก้ไขปัญหาผมบางในผู้ชายและผู้หญิงโดยการทอผมหรือสวมใส่ผมเสริมใน ราคาที่ไม่สูงมาก เรายินดีให้คำแนะนำปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ไม่มีพันธะหรือข้อผูกมัดใดๆ หากได้พูดคุยแล้วคุณตัดสินใจที่ยังไม่ทำการทอผมกับเราหรือไปใช้บริการกับ เจ้าอื่นๆ ทางเราถือว่าการได้พูดคุยกับลูกค้าถือเป็นการแลกเปลี่ยนทัศนะคติซึ่งกันและ กันและทางเราก็สามารถนำเอาความต้องการหรือข้อคิดเห็นของลูกค้าทุกท่านมาเป็น ข้อมูลในการปรับปรุงการให้บริการเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้มากที่ สุดและดียิ่งๆ ขึ้นไปในภายภาคหน้า
ปรึกษาการแก้ไขปัญหาผมบางด้วยการทอผม
ทางเรายังมีช่องทางติดต่อผ่าน Official Websites ของทางร้านอีก 4 เว็บด้วยกันนั่นคือ