หากย้อนกลับไปเมื่อสัก 5-10 ปี ก่อนหน้านี้ การ ทอผม หรือการสวมใส่ ผมเสริม ถือเป็นทางเลือกในการแก้ไขปัญหาบุคลิกภาพอันเนื่องมากจากปัญหาผมบางหรือศีรษะล้านที่ได้รับความนิยมสูงติดอันดับต้นๆ ในกลุ่มผู้ชายที่ประสบปัญหาผมบาง แต่ในปัจจุบัน จากข้อมูลตัวเลขที่เปิดเผยจากทางฝั่งอุตสาหกรรมผู้ประกอบกิจการผลิตสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทอผมในระยะหลัง ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของจำนวนผู้สวมใส่ผมเสริม, ตัวเลขออเดอร์การสั่งซื้อรวมถึงความต้องการโดยรวมของตลาดที่ผ่านมา บ่งชี้ให้เห็นถึงข้อเท็จจริงประการหนึ่งว่า ความนิยมของบุคคลทั่วไปต่อการใช้การทอผมในการปกปิดปัญหาผมร่วงผมบางมีแนวโน้มที่ลดลงเล็กน้อย ส่วนสาเหตุที่ทำให้การทอผมเสื่อมความนิยมลงอาจจะระบุออกมาเป็นข้อๆ ได้ดังต่อไปนี้
1. ทางเลือกในการรักษาหรือแก้ไขปัญหาผมบางที่หลากหลายและเพิ่มขึ้นกว่าเมื่อก่อน ในยุคแรกๆ ทางเลือกในการรักษาปัญหาผมบางถือว่ามีค่อนข้างจำกัดไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการรักษาที่มีการใช้ตัวยาหรือมีการรักษาทางการแพทย์เข้ามาเกี่ยวข้อง หรือการรักษาโดยที่ไม่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ เช่น การสวมใส่วิกผม หรือการทอผมเพื่อเพิ่มจำนวนเส้นผมบนหนังศีรษะ เป็นต้น
ต่อมาเมื่อเวลาผ่านไป วิวัฒนาการในการรักษาผมบางก็ได้มีการพัฒนาก้าวหน้าไปมาก ทำให้ได้มาซึ่งวิธีการใหม่ๆ ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ดีในการรักษาแก้ไขปัญหาสำหรับผู้ที่ประสบปัญหาผมบาง ศีรษะล้าน ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานยาซึ่งลดการทำงานของฮอร์โมนตัวที่ส่งผลเร่งให้ผมร่วงมากกว่าปกติ ทำให้ผมร่วงน้อยลง เช่น Finasteride หรือการรับประทานยาหรือทายาซึ่งกระตุ้นให้การไหลเวียนของโลหิตในรากผมดีขึ้นทำให้เส้นผมมีความแข็งแรงและทำให้ผมใหม่งอกขึ้นมา เช่น Minoxidil, การทำศัลยกรรมปลูกผม โดยการย้ายเซลล์เส้นผมจากร่างกายบริเวณที่เส้นผมมีความแข็งแรงมาปลูกถ่ายลงบนหนังศีรษะบริเวณที่ต้องการรับการแก้ไขให้ได้รูปทรงที่ออกมาดูเป็นธรรมชาติ โดยที่เส้นผมที่ทำการปลูกถ่ายนั้นจะคงอยู่ตลอดไป ซึ่งการรักษารูปแบบนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน แต่ก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงมากเช่นเดียวกัน
2. ทัศนคติที่มีต่อผู้ที่ผมบาง ศีรษะล้านเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ได้รับการยอมรับมากขึ้นจากคนในสังคม หากเป็นเมื่อก่อน ผู้ที่มีปัญหาผมบางหรือศีรษะล้านมักถูกมองด้วยสายตาในลักษณะที่ดูถูก เย้ยหยันหรือล้อเลียน จากมุมมองของบุคคลภายนอก อันเนื่องมาจากค่านิยมและวัฒนธรรมที่สืบต่อกันมาตั้งแต่สมัยรุ่นปู่ย่าตายาย ที่มองเรื่องของการมีผมบางหรือศีรษะล้านในแง่ลบ ทำให้ผู้ที่มีปัญหาดังกล่าวเกิดความรู้สึกขาดความมั่นใจในตัวเอง เกิดเป็นปมด้อยซึ่งทำให้ไม่กล้าที่จะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของตนต่อสังคมภายนอก หลายต่อหลายรายจึงเพียรพยายามที่จะปกปิดปมด้อยนั้นไว้โดยการสวมใส่วิกผม หรือเข้ารับการทอผม หรือกระทั่งสวมใส่หมวกตลอดเวลาที่ออกมาข้างนอกเคหะสถาน แต่ในยุคปัจจุบัน การยอมรับต่อสภาวะดังกล่าวเป็นไปในทางที่ดีขึ้น สังคมและผู้คนทั่วไปเปิดกว้างต่อปัญหาผมบางมากขึ้น ทำให้ผู้ที่ประสบปัญหารู้สึกมั่นใจในตนเองมากพอที่จะใช้ชีวิตประจำวันได้โดยที่ไม่ต้องเป็นกังวลเกี่ยวกับบุคลิกภาพภายนอกโดยเฉพาะเรื่องผมบนหนังศีรษะอีกต่อไป
3. อิทธิพลที่ได้รับจากบุคคลที่มีชื่อเสียงในสังคมเช่นดาราภาพยนตร์ ก็ถือว่ามีส่วนสำคัญที่ทำให้คนในสังคมเกิดการยอมรับต่อกลุ่มผู้ที่มีลักษณะผมบาง ศีรษะล้านมากขึ้น ดาราฮอลลีวูดชื่อดังอย่างเช่น บรู๊ซ วิลลิส ก็เป็นบุคคลหนึ่งซึ่งมีปัญหาผมบางตั้งแต่ช่วงๆ แรกที่ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง และเมื่อเวลาผ่านไปเมื่อผมบนศีรษะเริ่มลดลงอย่างเห็นได้ชัด วิลลิสก็เลือกที่จะทำการโกนผมบนศีรษะตนเองออกจนเกลี้ยงแทนที่จะทำการปกปิดปัญหาโดยการสวมใส่วิกหรือเข้ารับการรักษาทางการแพทย์เช่นปลูกถ่ายเส้นผม (ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องเงินค่าใช้จ่ายในการรักษาคงมิใช่ปัญหาสำหรับเขาแต่ประการใด) ซึ่งในท้ายที่สุด เขาก็ยังรักษาสถานะของการเป็นดาราระดับแถวหน้าของวงการไว้ได้ โดยที่ผู้คนให้การยอมรับกับภาพลักษณ์ของเขาได้เป็นอย่างดี และอาจจะกล่าวได้ว่า วิลลิสเป็นผู้นำเทรนด์คนแรกๆ ในหมู่คนผมบางที่หันมาโกนผมออกจนหมดในกรณีที่มีปัญหาดังกล่าวอีกด้วย จนคนจำนวนมากนิยมที่จะเลียนแบบและกลายเป็นเรื่องธรรมดาในสังคมในที่สุด
นอกจากเขาแล้ว ดาราหรือบุคคลที่มีชื่อเสียงคนอื่นๆ ก็นิยมที่จะโกนผมของตนเองเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น เจสัน สตราแฮม หรือ วิน ดีเซล เป็นต้น ถึงกระนั้นก็ตามก็ยังมีบุคคลที่มีชื่อเสียงหลายคนในวงการบันเทิงที่สวมใส่ผมเสริมเพื่อปกปิดปัญหาผมบาง ที่หลายคนรู้จักผลงานกันเป็นอย่างดี เช่น จอห์น ทราโวลตา หรือดารายอดนิยมในอดีตที่ได้รับรางวัลด้านการแสดงมานักต่อนักอย่าง อัล ปาชิโน เป็นต้น
แม้เหตุผลต่างๆ ที่ได้กล่าวมาทั้งหมดข้างต้นจะเป็นข้อสนับสนุนที่แสดงให้ว่า ในปัจจุบัน ผู้คนมีทางเลือกมากมายในการรับมือแก้ไขปัญหาผมบาง ศีรษะล้าน นอกเหนือจากการสวมใส่ผมเสริม หรือการทอผม แต่กระนั้นก็ตาม ก็ยังมีคนจำนวนมากซึ่งยังใช้บริการการแก้ไขปัญหาผมบาง ศีรษะล้านด้วยวิธีดังกล่าว โดยเฉพาะในหมู่ผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไปจนกระทั่งถึง 50 ปี ส่วนสาเหตุนั้นอาจจะแจกแจงได้เป็นข้อๆ ดังนี้คือ
1. เหตุผลเรื่องของความเคยชิน
สำหรับผู้ที่สวมใส่ผมเสริมหรือใช้บริการทอผมมาเป็นระยะเวลานานๆ ย่อมจะรู้สึกคุ้นเคยกับการสวมใส่ผมเสริมอยู่เกือบตลอดเวลา โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ทำงานบริษัทหรือผู้ที่ต้องพบปะพูดคุยกับบุคคลอื่นเป็นประจำ อย่างที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า สำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านเส้นผมในยุคแรกๆ การเลือกใช้บริการทอผมหรือเพิ่มเส้นผมจากช่างทอผมผู้ขำนาญถือเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในอดีตซึ่งน่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีช่วงอายุระหว่าง 30 ถึง 50 ปีหรือมากกว่านั้น
ความเคยชินอันเกิดจากการใช้งานส่งผลให้ลูกค้าเหล่านั้นเกิดความภักดี (Royalty) ต่อตัวผลิตภัณฑ์ซึ่งในที่นี้คือตัวผมเสริมหรือการทอผมไปโดยปริยาย ลูกค้ากลุ่มนี้จึงมองไม่เห็นถึงความจำเป็นในการที่จะต้องเปลี่ยนวิธีการรักษาหรือมีความกระตือรือร้นที่จะแสวงหาทางเลือกใหม่ๆ ในการแก้ไขปัญหาผมบางอีกต่อไป และส่วนหนึ่งเกิดจากความสะดวกสบายในการใช้งานตัวผมเสริมเอง และสำหรับลูกค้าที่ไม่ต้องการที่จะดูแลผมเสริมด้วยตนเองก็สามารถเข้าใช้บริการเป็นครั้งคราวจากทางศูนย์บริการในการที่จะทำความสะอาดผมเสริม หรือย้อมสีผม ตัดแต่งทรงใหม่ตามความต้องการได้อีกด้วย เรียกได้ว่าการทอผมนั้นเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีความรับผิดชอบด้านหน้าที่การงานซึ่งมักจะไม่ค่อยจะมีเวลาเหลือพอที่จะทำกิจกรรมอื่นๆ ในแต่ละวัน เช่น ผู้บริหาร ผู้จัดการ เจ้าของกิจการ แพทย์ หรือ อาจารย์ เป็นต้น
2. เหตุผลเรื่องของการเงิน
หากประเมินถึงประสิทธิภาพของการรักษาหรือแก้ไขปัญหาผมร่วงผมบางในรูปแบบต่างๆ แล้ว จะพบว่าในปัจจุบันการรักษาที่ได้รับการยอมรับว่าให้ผลลัพธ์ที่ออกมาดูดีที่สุดนั้นก็คือ การรักษาโดยการผ่าตัดปลูกถ่ายเซลล์ผมนั่นเอง แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาดีที่สุดนั้นก็มาพร้อมกับค่ารักษาที่แพงถึงแพงมาก ซึ่งค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับสภาพเส้นผมของผู้รับการรักษา ณ เวลานั้นๆ รวมถึงชื่อเสียงของสถานบริการที่เข้ารับการรักษาไม่ว่าจะเป็นคลีนิคหรือโรงพยาบาลเอกชน หากเป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงหรือทำการรักษากับแพทย์เฉพาะทางที่เป็นที่รู้จักว่าฝีมือดีและมีผู้ต้องการเข้ารับการผ่าตัดด้วยจำนวนมากก็จะยิ่งทำให้ค่ารักษาแพงยิ่งขึ้นไปอีก แม้ว่าผลของการรักษาที่ได้รับจะเป็นแบบถาวรก็ตาม ค่าใช้จ่ายของการศัลยกรรมปลูกถ่ายเซลล์ผมเริ่มต้นที่หลักหลายหมื่นบาทขึ้นไปจนกระทั่งถึงหลักแสนบาท ดังนั้นอาจจะกล่าวได้ว่า การรักษาดังกล่าวคงเหมาะสำหรับผู้ที่มีกำลังทรัพย์สูงเท่านั้น เมื่อเปรียบเทียบกับการทอผม จะพบว่าราคาของการแก้ปัญหาบุคลิกภาพของผมโดยวิธีนี้นั้นมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าค่อนข้างมาก และยังสามารถเลือกรูปแบบของการใช้บริการรวมถึงตัวผลิตภัณฑ์ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายตามประเภทของวัตถุดิบที่นำมาประกอบขึ้นเป็นตัวผมเสริม ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันออกไป ทำให้ผู้เข้ารับการรักษาแก้ไขปัญหาผมบางสามารถเลือกที่จะจ่ายเงินตามกำลังทรัพย์ของแต่ละบุคคลและควบคุมค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้ ซึ่งถือเป็นข้อดีอย่างหนึ่งของการทอผม
อีกประการหนึ่ง หากมองในแง่ของการเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่อาจจะยังไม่พร้อมในด้านการเงินในการที่จะเข้ารับการรักษาเพื่อหวังผลแบบถาวรเช่น การศัลยกรรมปลูกถ่ายเซลล์ผม การทอผมหนาหรือการเพิ่มเส้นผมถือเป็นทางเลือกแก้ไขปัญหา (Solution) ที่สามารถเป็นทางเลือกได้ทั้งในระยะสั้นหรือระยะยาว ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้รับการรักษา บางคนอาจจะรอที่จะเก็บรวบรวมเงินเพื่อที่เข้ารับการรักษาที่เห็นผลที่ดีกว่า จึงเลือกที่จะสวมใส่ผมเสริมเพื่อเสริมบุคลิกภาพในระหว่างที่รอให้เกิดความพร้อมมากกว่าในอนาคตก่อนที่หันไปรักษาโดยวิธีอื่น ในขณะที่บางคนอาจจะมีความคาดหวังว่า เมื่อเวลาผ่านไป การรักษาที่มีประสิทธิภาพที่ให้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งกว่าในปัจจุบันจะถูกค้นพบและมีให้บริการแก่บุคคลทั่วไป โดยที่มีราคาที่ถูกลง ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ จึงอยากที่จะรอเวลาก่อนที่วันนั้นจะมาถึง ซึ่งไม่ว่าจะด้วยเพราะเหตุผลใดก็ตาม การทอผมหรือการเพิ่มเส้นผมถือเป็นตัวเลือกคั่นเวลาที่น่าสนใจมากอีกตัวเลือกหนึ่ง
3. เหตุผลเรื่องของอายุ
สำหรับผู้ที่อยู่ในช่วงอายุวัยกลางคน คือบุคคลที่มีอายุระหว่าง 40-50 ปีหรือมากกว่านั้นขึ้นไป เป็นวัยที่จะให้ความสำคัญกับเรื่องการงานและครอบครัวเป็นอันดับแรก โดยที่ให้ความสำคัญกับเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกลดลง แต่ก็มิได้หมายความว่าจะเพิกเฉย ไม่ให้ความสนใจต่อรูปร่างหน้าตาของตนเองเสียทีเดียว ผู้ที่อยู่ในวัยนี้มักจะใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง และจะเลือกซื้อสินค้าหรือบริการที่ตัวเขาคิกว่าเหมาะสมและคุ้มค่ากับเงินทองที่ต้องสูญเสียไปเท่านั้น ฉะนั้น หากให้เลือกระหว่างการรักษาแก้ไขปัญหาผมบางโดยเสียค่าใช้จ่ายสูงเช่น การศัลยกรรมปลูกถ่ายเซลล์ผม ที่ถึงแม้จะให้ผลการรักษาที่ถาวรและแลดูเป็นธรรมชาติมากกว่า แต่หลายคนก็มักจะตระหนักดีว่า เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นความแก่ชราก็เพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว ความเป็นไปได้ที่จะต้องเผชิญกับโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ก็มีสูงขึ้น ฉะนั้นหากต้องเสียเงินเพิ่มปลูกเส้นผมในราคาที่สูงแล้ว ควรที่จะเลือกทางเลือกอื่นซึ่งเซฟเงินได้มากกว่าและยังมีเงินเหลือเพียงพอที่จะนำไปใช้ทำประโยชน์กับสิ่งอื่นๆ ซึ่งอาจจะมีความสำคัญมากกว่าและมีความจำเป็นยิ่งยวดกว่า เช่น ค่าใช้จ่ายภายในครอบครัว ค่าใช้จ่ายเรื่องเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร ค่าใช้จ่ายที่เก็บสำรองไว้ในยามฉุกเฉิน ค่าใช้จ่ายสำหรับการรักษาพยาบาลที่เกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เป็นต้น
ถึงกระนั้นก็ตาม หลายๆ คนมีความจำเป็นที่จะต้องมีภาพลักษณ์ภายนอกที่ดูดีอยู่ตลอดเวลาเมื่อออกมานอกบ้าน เนื่องด้วยเพราะหน้าที่การงานเป็นสำคัญ เนื่องจากบางคนมีตำแหน่งงานที่สูงในระดับหัวหน้าหรือผู้บริหาร หรือบางคนทำงานในตำแหน่งซึ่งควรที่จะต้องรักษาภาพลักษณ์ให้ดูดีอยู่เสมอ เช่น อาจารย์ในมหาวิทยาลัย หัวหน้าส่วนงานราชการ เป็นต้น และบางตำแหน่งก็อาจจะดูไม่เหมาะสมหากจะใช้วิธีการโกนเส้นผมบนหนังศีรษะออกจนหมดอย่างที่ได้กล่าวไว้ในหัวข้อก่อนหน้านี้ จึงยังมีบุคคลจำนวนมากที่เลือกใช้การสวมใส่ผมเสริม, การทอผมหนาหรือเพิ่มเส้นผมในการเสริมสร้างบุคลิกภาพให้ดูดีเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ในสังคม และคงจะยังเป็นอยู่เช่นนั้นตลอดไปสักระยะ
ที่ พรสวรรค์ HAIR CENTER เราให้บริการด้านการทอผม เพิ่มผมหนา โดยการสวมใส่ผมหนา ผมเสริม สำหรับท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีที่มีปัญหาผมบาง ผมร่วง ศีรษะล้าน ในราคาที่ย่อมเยาว์ นอกจากนี้เรายังมีบริการเสริมความงามอื่นๆ เช่น ย้อมผม ทำสีผม อบไอน้ำ ตัดแต่งทรงผม ต่อผม ยืดผม รวมถึงมีบริการนวดไทยแผนโบราณในแบบต่างๆ อีกด้วย
นอกจากนี้เรายังมีช่องทางติดต่อผ่าน Official Websites ของทางร้านอีก 4 เว็บด้วยกันนั่นคือ