ทอผม คืออะไร อาจจะเป็นคำถามที่หลายคนเคยสงสัยโดยเฉพาะในหมู่ผู้ที่มีปัญหาผมบาง ถึงแม้ในปัจจุบันเทคโนโลยีจะมีวิวัฒนาการที่ก้าวหน้าและล้ำสมัยกว่าเมื่อสมัยก่อนมาก แต่ปัญหาผมบางหรืออาการผมร่วงมากผิดปกติก็ยังนำมาซึ่งความฉงนและสงสัยในหมู่แพทย์และผู้ทำการวิจัยทั้งหลาย ว่าสาเหตุที่แท้จริงที่ก่อให้เกิดอาการดังกล่าวคืออะไรกันแน่
หากไม่นับว่าการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมหรือกรรมพันธุ์คือรูปแบบที่พบเห็นได้บ่อยที่สุด รวมถึงวิธีการแก้ไขหรือรักษาปัญหาผมบางดังกล่าว ที่ทุกคนรู้แน่นอนนั่นก็คือ ผลกระทบจากการที่คนๆ หนึ่งมีปัญหาผมบางนั้นโดยเฉพาะทางด้านจิตใจนั่นก็คือ การสูญเสียความมั่นใจในตนเอง และในยุคแห่งการสื่อสารไร้พรมแดน ยุคที่ผู้คนทั้งโลกสามารถเข้าหาถึงกันได้ในช่วงพริบตา การรับรู้ถึงปัญหาผมร่วงผมบางในหมู่สาธารณชนก็ขยายกว้างออกไปผ่านสื่อต่างๆ หลายช่องทาง ยิ่งตอกย้ำภาพลักษณ์ในแง่ลบและเพิ่มความรู้สึกเจ็บปวดและหดหู่ในหมู่ของผู้ที่ประสบปัญหาให้มากขึ้นไปอีก
ขณะเดียวกัน ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการทอผมหรือการใส่ผมเสริมในประชาชนคนทั่วไปก็มีเพิ่มมากขึ้นตามยุคสมัยที่ผ่านไปหากเมื่อเทียบกับในสมัยก่อน โดยเฉพาะอิทธิพลจากสื่อออนไลน์เช่น Internet การค้นหาข้อมูลผ่าน Search Engine ที่เป็นที่รู้จักกันแพร่หลายเช่น Google, Bing หรือ Yahoo ทำให้ผู้ที่ประสบปัญหาผมบางและทำการค้นหาข้อมูลการรักษาอาการหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวมีโอกาสได้พบเห็นคำว่า ทอผม ทอผมหนา เพิ่มผมหนา หรือ ผมเสริม บ่อยขึ้น
ปัจจุบัน โฆษณาที่เกี่ยวข้องกับการทอผมหรือผมเสริมออกมาสู่สายตาผู้ชมในหลากหลายรูปแบบ ส่วนใหญ่แล้วมักจะอ้างประโยชน์จากการใช้งานคล้ายๆ กันนั่นคือ หากสวมใส่แล้วจะทำให้รู้สึกเหมือนเส้นผมจริงๆ ที่อยู่บนหนังศีรษะ มองจากภายนอกแล้วดูเสมือนจริงเหมือนกับที่ได้เห็นจากนายแบบในภาพที่ใช้โฆษณา ความเป็นจริงผมเสริมนั้นถูกนำมาใช้เพื่อแก้ปัญหาผมบางทั้งในเพศชายและหญิงเป็นระยะเวลานานหลายปีแล้วแต่รายละเอียดเกี่ยวกับการใช้งานหรือวิธีการผลิตเพื่อได้มาซึ่งตัวผมเสริมนั้นถูกจำกัดการรับรู้แม้กระทั่งในบรรดาผู้ที่ประสบปัญหาผมบางเองก็ตาม จะมีเพียงในหมู่ช่างทอผมหรือเจ้าของกิจการที่จะมีความรู้ความเข้าใจในกระบวนการทอผมอย่างถ่องแท้เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป รูปแบบการนำเสนอขายบริการทอผมเริ่มเปลี่ยนไปจากเดิมที่มักจะมุ่งเน้นประโยชน์เพื่อปกปิดผมบางจากการสวมใส่โดยตรงมาเป็นส่วนหนึ่งในหลายๆ วิธีการในการแก้ไขปัญหาผมบาง ศูนย์ให้บริการด้านแก้ปัญหาผมบางหลายแห่งอาจจะมีการเสนอขายบริการด้านแก้ไขปัญหาผมบางโดยมีบริการที่แตกต่างกันมากถึง 4 หรือ 5 วิธีด้วยกัน เช่น
1. ทานยาเพื่อหยุดอาการผมร่วงและเร่งผมใหม่ขึ้นมาแทน
2. การกระตุ้นรากผมโดยใช้เครื่องมือต่างๆ
3. การใช้สารเคมีเช่น สเปรย์ ฉีดลงบนหนังศีรษะเพื่อทำให้ผมดูหนาขึ้น
4. การทอผม หรือสวมผมเสริมซึ่งก็เป็นวิธีปกปิดผมบางวิธีหนึ่งที่เห็นผลดี เป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์ด้านบริการที่ทางธุรกิจนำเสนอขายแก่ผู้ที่สนใจต้องการแก้ไขปัญหาผมบางอีกทางหนึ่ง
ผู้ที่ประสบปัญหาผมบาง โดยเฉพาะในผู้ที่เป็นโรคผมร่วงเป็นหย่อมที่มีชื่อทางการแพทย์ว่า alopecia totalis ซึ่งลักษณะของผมที่เหลืออยู่บนหนังศีรษะจะกระจายเป็นหย่อมเล็กทั่วทั้งศีรษะ ซึ่งการแก้ไขปัญหาผมบางในลักษณะดังกล่าวที่ให้ผลดีที่สุดโดยที่ไม่เกี่ยวกับการให้ยาหรือการผ่าตัดปลูกถ่ายเซลล์ผมนั้นก็คือการเลือกใส่ผมเสริมหรือการทอผมนั่นเอง ซึ่งข้อดีของผมเสริมเมื่อสวมใส่ในผู้ที่ผมบางนั่นก็คือ ผมจริงเดิมที่มีอยู่บนหนังศีรษะจะกลมกลืนเข้ากันกับผมที่อยู่บนผมเสริม ทำให้การสวมใส่ออกมาดูดี ดูเป็นธรรมชาติ จนกระทั่งคนส่วนมากมักจะไม่สังเกตเห็นถึงความแตกต่างหรือความผิดปกติจากการสวมใส่ผมเสริมแต่อย่างใด
ทอผมคืออะไร
การทอผมอาจจะมีชื่อเรียกที่หลากหลายแตกต่างกันตามแต่ที่ศูนย์บริการแก้ไขปัญหาผมบางหรือสถานบริการแต่ละแห่งจะใช้เป็นชื่อในการประชาสัมพันธ์และการขาย เช่น ทอผม ทอผมหนา เพิ่มผมหนา ซึ่งชื่อเรียกทั้งหลายเหล่านี้ต่างหมายถึงตัวผลิตภัณฑ์เดียวกันใช้เพื่อการแก้ปัญหาผมบาง ซึ่งทำขึ้นมาจากวัตถุดิบที่เหมือนกันรวมถึงอาจจะมีที่มาจากแหล่งเดียวกันอย่างเช่น ทำมาจากโรงงานเดียวกัน มาจากประเทศผู้ผลิตเดียวกันซึ่งในปัจจุบันแหล่งผลิตผมเสริมแหล่งใหญ่อันดับต้นๆ ของโลกนั้นมาจากประเทศจีนหรือไต้หวัน มีบ้างที่ผลิตมาจากประเทศในกลุ่มยุโรปแต่ราคาจะสูงกว่ามาก
การทอผมมีส่วนประกอบอะไรบ้าง
หนังศีรษะเทียม
หนังศีรษะเทียมคือโครงสร้างส่วนที่รองรับผมเสริมซึ่งเกิดจากการที่นำเส้นผมไม่ว่าจะเป็นผมของมนุษย์หรือเส้นผมที่ทำขึ้นจากสารสังเคราะห์เช่นซินเทติคมายึดติดเข้ากับตาข่ายที่มีอยู่บนหนังศีรษะเทียมโดยมีขั้นตอนและกระบวนการที่ค่อนข้างสลับซับซ้อนจนได้ออกมาเป็นตัวผมเสริมที่สำเร็จและพร้อมใช้งานสำหรับปกปิดผมบาง
วัตถุดิบที่ใช้
ในปัจจุบันการทอผมจะมีการใช้วัตถุดิบหลักๆ 2 อย่างในการทำโครงสร้างผมเสริมคือ โพลิเมอร์หรือเส้นใยตาข่าย ซึ่งในบางครั้งจะใช้วัตถุดิบทั้งคู่ในการผลิตผมเสริม โดยปกติแล้ว ตาข่ายจะถูกผลิตขึ้นจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์หรือเส้นใยไนลอนซึ่งตาข่ายที่ผลิตขึ้นจากวัสดุดังกล่าวจะมีคุณภาพดีและมักถูกนำมาใช้ในการทำผมเสริมสำหรับศูนย์บริการที่มีชื่อเสียง และในบางกรณีวัสดุทั้งสองจะถูกนำมาใช้ทำฐานโครงสร้างผมเสริมทั้งหมด ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาดูเป็นธรรมชาติและเหมือนผมจริงอย่างมากสามารถปกปิดผมบางได้อย่างดี แต่ข้อเสียคือมีอายุการใช้งานที่ไม่ยาวนานมากนัก
ข้อดีของตาข่าย
-ทำให้ผมเสริมออกมาดูเป็นธรรมชาติ คนทั่วไปมักจะแยกความแตกต่างกับผมจริงไม่ออก
-น้ำหนักเบา ทำให้สวมใส่สบาย ใส่แล้วไม่ร้อนหนังศีรษะ
ข้อเสีย
-ราคาแพง
-ค่อนข้างเปราะบาง ความยืดหยุ่นต่ำ
-เหงื่อบนหนังศีรษะจะทำปฏิกิริยากับตาข่ายทำให้เสื่อมสภาพลงหรือชำรุดเสียหายเมื่อใช้งานนานๆ
-เมื่อใช้ไปถึงระยะเวลาหนึ่งต้องทำการเปลี่ยนอันใหม่
โพลิเมอร์
โพลิเมอร์คือสารสังเคราะห์ที่ถูกทำขึ้นจากซิลิโคนหรือโพลียูรีเทน และใช้ในการผลิตวัตถุเลียนแบบที่มีลักษณะคล้ายกับผิวหนังหรือหนังศีรษะของมนุษย์ มักถูกนำมาใช้ประกอบการทำผมเสริมเนื่องจากมีความยืดหยุ่นมากกว่าวัสดุประเภทอื่นๆ และมีอายุการใช้งานที่ค่อนข้างยาวนาน
ข้อดี
-ราคาถูก
-มีความยืดหยุ่นสูง
-ยึดติดเข้ากับผมเสริมได้ดี
ข้อเสีย
-เวลาสวมใส่แล้วร้อนมาก ทำให้สวมใส่ไม่สบาย
-ดูไม่เป็นธรรมชาติจนสามารถมองออกได้
ความรู้เกี่ยวกับผมเสริม
ผมเสริมที่มีคุณภาพดีที่สุดคือผมเสริมที่ทำมือและใช้เส้นผมจากเส้นผมมนุษย์ซึ่งคัดสรรแต่เส้นผมที่มีสุขภาพดี ไม่แตกปลายหรือหยิกงอ และเส้นผมมีความใกล้เคียงกับผมเดิมของผู้สวมใส่มากที่สุด ซึ่งความใกล้เคียงนั้นรวมถึงสีผม ลักษณะของเส้นผมเช่น ยืดตรง ผมหยักศก ผมหยิก และความหนาของเส้นผม ผมเสริมที่มีราคาถูกมักจะเป็นผมที่ประกอบขึ้นจากผมที่ไม่ได้คุณภาพจากมนุษย์หรือจากเส้นขนของสัตว์หรือเส้นใยสังเคราะห์ และเนื่องจากเส้นผมของมนุษย์เรามีความเปราะบางดังนั้นต่อให้เป็นผมเสริมที่มีราคาแพงและทำการทอผมโดยช่างผมมืออาชีพก็ยังจำเป็นที่จะต้องได้รับการเปลี่ยนอันใหม่หลังจากจากที่สวมใส่ไปได้สักระยะหากต้องการแก้ปัญหาผมบางอย่างยั่งยืนในระยะยาว
วิธีติดผมเสริม
พึงระลึกไว้เสมอว่าวิธีที่ใช้ในการติดผมเสริมเข้ากับศีรษะเพื่อปกปิดปัญหาผมบางจะส่งผลต่อเส้นผมเดิมที่มีอยู่บนศีรษะก่อนหน้านั้น การสวมใส่ผมเสริมอาจจะส่งผลให้ผมที่อยู่ภายใต้ผมเสริมหรือส่วนที่เชื่อมต่อโดยการถักทอเกิดการร่วงได้มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสภาพผมของแต่ละคน โดยเฉพาะในผู้ที่ใช้วิธียึดผมเสริมโดยการเชื่อมผม หรือใช้เทปกาว หรือต่อผมโดยการทอผม การใช้คลิปล็อคยึดผมจะส่งผลกระทบน้อยกว่าเมื่อเทียบกับวิธีอื่นๆ
ผมเสริมประเภทยึดติดกึ่งถาวร
ผมเสริมประเภทยึดติดกึ่งถาวรถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานซึ่งผู้สวมใส่ไม่สามารถทำการถอดผมเสริมได้ด้วยตนเอง ยกเว้นกระทำโดยช่างผมหรือผู้ชำนาญการ โดยปกติการถอดออกจะกระทำทุกๆ 6 สัปดาห์ต่อครั้ง หากคุณสวมใส่ผมเสริมประเภทนี้ ควรได้รับการถอดออกเพื่อนำผมเสริมมาสระล้างทุกๆ 5 วัน หรือน้อยกว่านั้น รวมถึงคุณควรจะสระผมและหนังศีรษะของคุณเองเพื่อรักษาความสะอาดให้แก่ทั้งตัวผมเสริมและผมเดิมของคุณ เนื่องจากการสวมใส่จะทำให้เกิดเหงื่อ น้ำมันบนหนังศีรษะ หรือสิ่งสกปรกอื่นๆ สะสมอยู่ในจุดที่หนังศีรษะและตัวผมเสริมสัมผัสกัน
ผมเสริมประเภทยึดติดชั่วคราว
เทปกาวติดผมเสริมซึ่งมีกาวสองด้านเป็นเทปกาวพิเศษซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการยึดติดผมเสริมโดยเฉพาะ วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายในการใช้งานและผู้สวมใส่สามารถทำการถอดผมเสริมออกด้วยตนเองและใส่กลับเข้าไปใหม่ อย่างไรก็ดี การยึดติดด้วยเทปกาวนี้อาจจะทิ้งซึ่งคราบกาวหรือความเหนียวบนหนังศีรษะรวมถึงใต้ฐานของตัวผมเสริมซึ่งอาจจะต้องทำการล้างออก รวมถึงเทปกาวอาจจะหลุดออกในกรณีที่มีเหงื่อออกมากๆ รวมถึงทำกิจกรรมที่สัมผัสกับน้ำอย่างต่อเนื่อง เช่น การว่ายน้ำ เป็นต้น
ผมเสริมประเภทมีคลิปล็อค
คลิปล็อคคือที่หนีบที่อยู่ใต้ตัวผมเสริมซึ่งใช้สำหรับยึดติดผมเดิมที่มีบนศีรษะ การยึดติดประเภทนี้ค่อนข้างแน่นและคงทนแต่ง่ายในการถอดออกเช่นเดียวกันกับการยึดติดโดยการใช้เทปกาว
คำถามและคำตอบและที่เป็นประโยชน์ในการตัดสินใจก่อนเข้ารับการทอผมสำหรับผู้ที่สนใจต้องการแก้ไขปัญหาผมบางโดยวิธีการดังกล่าว
จริงหรือไม่ที่เราควรที่จะได้เห็นตัวอย่างของผมเสริมในรูปแบบที่สามารถจับต้องได้มากกว่าเพียงแค่เห็นจากรูปถ่ายหรือภาพเคลื่อนไหวก่อนที่จะตัดสินใจทำการทอผมกับช่างทำผมที่เข้ารับการบริการแก้ไขปัญหาผมบาง?
แน่นอนที่สุด อันที่จริงแล้วผู้ที่เข้ารับทำผมเสริมควรจะมีโอกาสได้เห็นหรือสัมผัสตัวอย่างผมเสริมหลายๆ แบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นทรงผมที่ต่างกัน สีผมต่างกัน ความยาวของผมรวมถึงประเภทของเส้นผมที่ต่างกันออกไป เช่น ผมตรง ผมหยักศก ผมเส้นเล็ก ผมเส้นใหญ่ เป็นต้น หากท่านได้ไปยังสถานที่ใดที่ช่างทำผมนำเสนอเพียงภาพถ่ายหรือเปิดวีดีโอให้ดู อย่าเสี่ยงชำระเงินสั่งทำงานผมเสริมเลยจะดีกว่า (ซึ่งก็ไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆ เสียด้วย) เพราะการแก้ปัญหาผมบางควรใส่ใจในทุกรายละเอียด
ผมเสริม ควรเป็นงานที่ทำขึ้นโดยใช้มือทำหรือสั่งผลิตสำเร็จรูปโดยใช้เครื่องจักร?
เพื่อผลลัพธ์ให้ได้ผมเสริมที่ออกมาดูดีที่สุดและปกปิดผมบางอย่างแนบสนิท ควรเป็นผมเสริมอันเกิดจากการทอผมด้วยมือโดยช่างทอผมผู้ชำนาญการเท่านั้น
ผมเสริมที่ถูกผลิตขึ้นโดยกระบวนการที่ใช้มือทำจะดูเป็นธรรมชาติมากกว่าผมเสริมประเภทอื่นหรือไม่?
ถูกต้อง นอกจากนั้นแล้ว ผมเสริมที่ทำขึ้นด้วยมือจะสวมใส่เข้ากับศีรษะของผู้ที่มีปัญหาผมบางได้พอดีกว่า เส้นผมและสีผมของงานผมเสริมควรที่จะเป็นแบบเดียวกันกับผมจริงที่มีอยู่เดิมบนหนังศีรษะ และควรเลือกความหนา (ปริมาณ) ของเส้นผมของผมเสริมให้ออกมาพอดีไม่หนาเกินหรือบางเกิน โดยทางที่ดีควรจะแสดงรูปถ่ายในอดีตของผู้ที่มีปัญหาผมบางในขณะที่ยังมีปริมาณผมมากอยู่ให้ช่างทอผมได้ใช้พิจารณาประกอบการทอผมด้วยเพื่อให้ได้ผมเสริมที่ออกมาดูใกล้เคียงกับผมเดิมมากที่สุด
ที่กล่าวว่าผมที่ใช้กับผมเสริมนั้นเป็นเส้นผมของมนุษย์จริงๆ นั้นมีความหมายว่าอย่างไร?
ผมเสริมที่ทำจากผมมนุษย์นั้นเกิดจากการนำผมของคนมาถักและยึดเข้ากับโครงสร้างของตัวผมเสริมจนออกมาเป็นงานชิ้นสำเร็จ มีศูนย์ให้บริการเพียงบางแห่งในประเทศไทยที่งานผมเสริมเป็นงานที่ใช้ผมคนจริงๆ ทำขึ้น นอกนั้นจะเป็นงานที่ใช้ผมซินเทติค (Synthetic) ซึ่งทำจากสารสังเคราะห์มาประกอบทำเป็นผมเสริม
ผมเสริมที่ภายหลังจากที่สั่งทำขึ้นแล้ว ถูกผลิตขึ้นในสถานที่ที่ให้บริการหรือถูกผลิตขึ้นจากสถานที่อื่น?
ในปัจจุบัน งานผมเสริมประมาณ 90-95% จะถูกผลิตขึ้นจากประเทศจีน
ระหว่างผมเสริมที่ถูกทอด้วยผมซินเทติคกับผมที่มาจากเส้นผมของคนจริงๆ แบบไหนสวมใส่แล้วดีกว่ากัน?
ถึงแม้ผมที่ทำจากซินเทติคจะมีข้อดีอย่างหนึ่งคือสีของผมจะอยู่คงทนไม่เปลี่ยนแปลงซีดจางลงไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไร ถึงกระนั้นก็ตามปัญหาจากการใช้งานผมประเภทดังกล่าวก็มีอยู่หลายประการด้วยกันคือ
1. ความรู้สึกที่ไม่เหมือนจริงเวลาที่สัมผัสเส้นผม
2. ผมจะสะท้อนแสงในอัตราที่มากกว่าผมของมนุษย์จนสามารถสังเกตเห็นได้
3. เมื่ออยู่ใกล้ความร้อน ผมจะหยิก งอ โค้ง
4. เส้นผมซินเทติคมักใช้เป็นส่วนประกอบในการทำวิกผมราคาถูกซึ่งมีขนาดเดียวหรือฟรีไซส์ ดังนั้น จากที่กล่าวมาทั้งหมดจึงขอแนะนำให้ใช้ผมเสริมที่ทำมาจากผมของคนจริงๆ เท่านั้น เพื่อให้เข้ากับผมเดิมที่มีอยู่และมีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาผมบางได้ผลดีที่สุด
การยึดติดผมเสริมมีทั้งหมดกี่ประเภท?
การยึดติดผมเสริมสามารถทำได้ 3 วิธีโดยการ
1. ทอผมหรือเชื่อมผม
2. เทปกาว
3. คลิปล็อค
ที่ พรสวรรค์ HAIR CENTER เราให้บริการด้านการทอผมโดยการสวมใส่ผมเสริม สำหรับท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีที่มีปัญหาผมบาง ศีรษะล้าน ในราคาที่ย่อมเยาว์ นอกจากนี้เรายังมีบริการเสริมความงามอื่นๆ เช่น ต่อผม ย้อมผม ทำสีผม อบไอน้ำ ตัดแต่งทรงผม ยืดผม รวมถึงมีบริการนวดไทยแผนโบราณในแบบต่างๆ อีกด้วย